เรื่องที่ ๒ นายยกเหา
เจ้าคุณรัตนธัชมุนี ( อิสสรญาโณ) วัดบวรนิเวศ กรุณาบันทึกส่งมาให้
ในบ้านสวนใหม่ ตำบลเกาะยอ จังหวัดสงขลา มีสุภาพบุรุษคนหนึ่ง ชื่อนายยกเหา เป็นคนสุภาพเรียบร้อย คนโดยมากนับถือ ได้ยินว่าแกปรารถนาพุทธภูมิด้วย เมื่อแกอายุกลางๆ คน ขนาด๔๐-๕๐ แกเจ็บตาย เมื่อใกล้ตาย คนไปเยี่ยมอยู่มาก ลูกเมียแกร้องให้ แกยังเทศน์สอนว่า อย่าร้องให้ ให้ถือเอาตัวแกเป็นตัวอย่าง คนเกิดมาแล้วไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อย่างนี้แล้วแกก็ดับจิตไป
เมื่อแกตายแล้วประมาณ ๑๐ ปีเศษ มีหญิงคนหนึ่งอายุ ๑๓- ๑๘ ปี อยู่บ้านห่างกันมาก ชื่อคิ้น ปอกสัปปะรด มีดเถลิกไปบาดเอาที่เท้ากลายเป็นบาดพิษ นอนสลบไปหลายวัน ร้อนอยู่ที่หน้าอกแห่งเดียวเท่านั้น พอรู้สึกขึ้นมา เล่าเรื่องราวที่ไปเห็นคนที่ได้เสวยสุขและทุกข์อยู่ แม้แต่คนที่ตายไปก่อน หญิงคนนั้นเกิด และคนที่หญิงคนนั้นเกิดจำได้แล้ว ว่าคนนึ้นเสวยสุขอยู่อย่างนั้นๆ เพราะทำกรรมดี บางคนเสวยทุกข์อยู่ เพราะทำดีชั่วอย่างนั้นๆ น.ส.คิ้น บอกว่า ผู้เสวยทุกข์ เสวยสุขบอกนางเอง จำทั้งชื่อและรูปพรรณสัณฐานมาเล่าให้เขาฟังด้วย ผู้ใหญ่ที่ได้ยินเธอเล่า ก็รับรองว่าจริงอย่างที่พูด
เมื่อเที่ยวไปได้พบบุรุษคนหนึ่ง อายุกลางคน คือ นายยกเหา ที่ออกชื่อมาแล้วในเรื่องข้างต้นนั้นเอง ติดเครื่องพันธนาการ แก่สั่งว่าเมื่อกลับไปแล้วอย่าคบกับลูกสาวแก มันไม่มีเมตตากรุณาต่อสัตว์อื่น เมื่อแกตายเวลาจะสิ้นใจ สุนัขหอนขึ้น จิตไปประวัติในเสียงสุนัขเลยไปเกิดเป็นสุนัขแดงอยู่ ๓ ปี เมื่อยังเป็นลูกสุนัข ขึ้นไปนอนบนเรือนด้วยสำคัญว่าเรือนของตัว นึกว่าจะได้กิน แต่ลูกสาวทุบตีบ้าง ฉวยคอซัดลงมาบ้าง ไม่เคยได้กิน ลูกชายเคยห้ามพี่สาวว่าอย่าทำอย่างนั้น ควรจะเอ็นดูมันบ้าง ลูกสาวก็ไม่ฟัง ยังทำอย่างเดิม เกิดเป็นสนัขอยู่ ๓ ปี ได้กินอิ่มทีเดียว เมื่อคราวแต่งงานบ่าวสาว มีบุรุษคนหนึ่งชื่อนายซ้าย เอาอาหารไปให้กินอิ่ม เมื่อกินอิ่มแล้วไปนอนเอาหัวพาดบันใดบ้านนายเฉ้ยไล่ ตายแล้วมีคนเอาไปทิ้ง
เมื่อตายจากสุนัขมาเกิดติดพันธนาการอยู่นี่แหละ นางคิ้นถามว่า ที่ติดพันธนาการเพราะกรรมอะไร แกบอกว่าเพราะกินที่สวนเขา คือสวนนายซ้ายผู้ที่ให้อาหารกิน เมื่อเป็นสุนัขอยู่นั้นเอง นางคิ้นถามว่า เมื่อไรจะหลุด แกบอกว่า เจ้าของสวนเขายังไม่ตายยังไม่ได้ชำระกัน เมื่อชำระกันแล้วก็คงจะหลุดพ้นไปได้
นายเอียด ลูกชายของนายยกเหานั้น เป็นคนเฉลียวฉลาดมาก พอรู้ว่านางคิ้นเล่าให้คนฟังว่าบิดาเธอเกิดเป็นสุนัข และตายจากสุนัขไปติดพันธนาการอยู่ดังกล่าวมาแล้ว เธอจะเอากระดาษฟุลสแก็ปดินสอไปตามจดคำของนางคิ้นเอง นางคิ้นก็เล่าให้ฟังดังกล่าวมาแล้ว นายเอียดยังซักไซ้ว่าบิดาของเธอรูปพรรณสัณฐานอย่างไร นางคิ้นก็บอกว่าตัวขาว เป็นคนล่ำสัน อายุประมาณกลางคน เธอย้อนถามว่ามีตำหนิแผลอะไรที่ไหนบ้าง นางคิ้นตอบว่าเป็นแผลเป็นอยู่ที่ขมับเบื้องขวา นายเอียดบอกว่าเขาเองหรือ แม้แต่แม่ของเขาก็จำไม่ได้เสียแล้วว่าบิดามีแผลเป็นอยู่ทีขมับ เมื่อนางคิ้นบอกขึ้นก็นึกได้
เมื่อข้าพเจ้าออกไปสงขลา คนอื่นๆ เล่าให้ฟัง และนายเอียดลูนายยกเหา เมื่อกลับไปบ้านตรวจดูเขตแดนสวน ตามที่บิดาบอกว่ากินที่สวนเขาเข้าไป ก็จริงอย่างทีบิดาบอก ซึ่งก่อนนั้นเขาไม่ได้รู้เรื่องมาเลย คือ ต้นสวนอยู่ริมทะเล ปลายสวนขึ้นภูเขาไปกินที่เขาที่ปลายสวนบนภูเขานั้นเอง
นี่เป็นคนที่นายเอียดเล่าให้ฟังเอง และเขารับรองว่าที่นางคิ้นพูดนั้นเป็นจริงทั้งหมดไม่เคลื่อนคลาดเลย และเขาบอกว่าเมื่อบิดาตาย นางคิ้นจะเกิดแล้วหรือไม่เขาจำไม่ได้ แต่ไม่เคยไปบ้านเขาเลย
อัตถาธิยายพร้อมทั้งนิทานสาธก เรื่องกรรมจำแนกสัตว์ให้เป็นต่างๆ กันโดยย่อนี้ หวังว่าจะเป็นเครื่องเกื้อกูลแก่กุศลสัมมาปฏิบัติของผู้สนใจ และไม่ประมาทตามสมควร แม้ตั้งสัจอธิฏฐานว่าจะทำแต่กรรมดีตามสามารถจะไม่ทำกรรมชั่วอย่างเด็ดขาด ดังนี้ ผลดีและความสุขก็จะตามสนองตามสมควร ถ้าท่านคอยสังเกตจะเห็นได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีใครมาพยากรณ์ แต่คนอ่อนปัญญามักไม่เห็นผลดีที่ประณีต เช่นใจสูงสะอาด เมตตา กรุณา สามารถร่างกายสมบูรณ์ ทรัพย์ไม่วิบัติเหล่านี้ โดยมากมักเห็นผลดีหยาบๆ เช่น การได้ลาภ ได้ยศ สรรเสริญ ความสนุก เจือทุกข์แต่เข้าใจว่าสุข เพราะไม่รู้จักสุขจริงๆ แต่ผลดีหยาบๆ นั้นเป็นของก็มี เป็นของเทียมก็มี
เพราะเหตุนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านที่ได้อ่าน ฟังแล้ว น้อมใจนึกถึงคุณ พระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตน พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ มากๆ ให้เกิดปัญญาแก่กล้าสามารถเห็นทั้งผลดีและความสุขที่เป็นภายใน ตลอดถึงผลดีภายนอกแล้วทำให้ชีวิตให้เป็นสาระทั่วกันเทอญ.ฯ
จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น