วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ผจญภัยที่ดอยแขม สาธารณรัฐประชาชนจีน

ผจญภัยที่ดอยแขม สาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านวิชัยเดินอย่างอ่อนระโหยโรยแรง ขณะที่พระอาจารย์พระครูสิริธรรมวิเทศ ขึ้นไปนั่งรออยู่บนแท่นหินข้างทางไกลออกไป ท่านวิชัยบอกว่ามันเหนื่อยใจจะขาด ผมบอกว่าอย่าเดินเร็วค่อยๆเดินไป เพราะมันเป็นยอดเขาสูงอากาศเบาบาง เพราะทางนี้สูงและชันมากรถขึ้นไม่ไหวจึงต้องลงมาเข็ญรถ พอรถไปได้คนก็จะไปไม่ได้เพราะเนื่อย ต้องค่อยๆประคับประคองกันไป เพื่อรักษาชีวิตไว้

ศาลเทพารักษ์

ศาลเทพารักษ์ประจำหมู่บ้าน ที่ ต.กาดทราย อ.เชียงรุ่ง จ.สิบสองปันนา ยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

บ้านไทลื้อ

บ้านไทลื้อแบบเก่าที่ใช้เจาะสลักสอดเป็นตง ถ้าไม่เสมอกันก็ใช้ไม้หนุนเอาอย่างในภาพ ส่วนมากทั้งหลังก็จะใช้เจาะในแบบเดียวกัน แต่ในปัจจุบัน การซ่อมแซมบ้านยใหม่หรือทำบ้านใหม่มักจะไม่ใช้แบบนี้ หากไม่อนุรักษ์ไว้ ไม่นานเราก็จะไม่เห็นศิืลปะการสรน้างบ้านแบบดั้งเดิมอีก คงจะเป็นบ้านก่ออิฐถือปูนแบบใหม่ และไต้ถุนสูงแบบเอนกประสงค์แบบนี้ก็จะค่อยๆเริ่มหายไป จึงได้บันทึกภาพเอาไว้เพื่ออนุชนรุ่นหลัีงจะได้ดูเป็นขวัญตา ถ่ายภาพที่ เมืองเชียงรุ่ง สิบสองปันนา ยูนนาน สวาธารณรัฐประชาชนจีน

เทิือกเขาแดนพม่า

เทือกเขานั้นเป็นเทือกเขาที่ต่อเนื่องยาวไปถึงประเทศพม่า ที่ยืนอยู่นั้นเป็นยอดเขาวัดครูบาปา มองลงไปด้านล่างตรงหุบเขาคือแม่น่้ำหลวยที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้่ำของ

บ่อน้ำไทลื้อแห่งสิบสองปันนา

บ่อน้ำในเมืองเชียงรุ่งจะออกแบบเดียวกันคือมีอาคารครอบ หลังคาแหลมเป็นแบบยอดเจดีย์ มีทางเข้าตักน้ำได้ทางเดียว บ่อน้ำทุกแห่งน้ำจะอยู่ไม่ลึกสามารถตักเอาได้โดยง่าย น้ำไสเย็นสะอาด

สองผู้เฒ่าเสาหลักแห่งไทลื้อ เชียงรุ่ง สิบสองปันนา

เสาหลักแห่งวัดเชียงป้อม ต.กาดทราย อ.เชียงรุ่ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีกิจกรรมสมาทานบำเพ็ญสมาธิภาวนาเป็นประจำทุกวันพระ ทั้งสองผู้อาวุโสทั้งสองท่านมีลูกหลานมากมาย ต่างก็ทำธุรกิจภัตตาคารบ้าง อย่างอื่นบ้าง รวมถึงสนีบสนุนกดารเผยแพร่วัฒนธรรมแห่งเผ่าไทให้เป็นที่รู้จักกับนักท่องเที่ยว จัดชุดรำแบบไทลื้อ ไปแสดงโชว์ตามสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเชียงรุ่ง ส่วนมากก็ใช้่ลานหน่้าวิืหารวัดเชียงป้อมเป็นสถานที่ฝึกซ้อม นักม่องเที่ยวจากประเทศไทยคงจะได้ชมฝีมือกมารร่ายรำมาแล้วก็๋เป็นได้

กลองยาว

เชียงได้ชื่อว่าเมืองแห่งกลองยาว เพราะในถนนในเมืองนั้นจะทำสัญลักษณ์กลองยาวไว้ทั่วไป

เชียงขาง เมืองแห่งขุนเขา

อากาศหนาวเย็นที่เมืองจีน พระอาจารย์พระครสิริธรรมวิเทศ ไอทุกคืนเพราะความหนาว แต่ก็ยังสามารถฟันฟ่ามาได้ถึงวันกลับ ที่นี่คือถนนเข้าสู่เมืองเชียงขาง บนเขาจะม่ีน้่ำพุร้อนพวยพุ่งออกมา จนต้องกักรอไว้ให้เย็นลงก่อนค่อยปล่อยลงมาตามท่อเพื่อใช้ในการอุปโภคบริอโภคต่อไป

สายัณฯหกาลที่บ่อน้ำแร่ เชียงขาง

ย่ำสนธยาชุมชนฝั่งแม้น้ำหลวยที่ไหลลงสู่แม้น้ำของ(โขง) ต้นน้ำที่อุดมด้วยพืชพรรณนานาชนิด สองฝั่งน้ำคือยอดเขาสูงชันที่หลั่งน้ำเปผ็นสายไหลรนินลงสู่ที่ลุม มีน้ำแรน่อันเกิดจากคตวามร้อยไต้ดิน ทำให้ผู้คนได้อาบโดยไม่ต้องเสียค่าไฟพลังงานในการต้มให้ยาก ธรรมชาติจัดให้แล้วโดยสมบูรณ์ มีห้องสำหรับอาบน้ำ สำหรับพระถวายฟรี ส่วนที่ติดตามคนละ ๒ หยวน คือ ๑๐ บาท

ดินแดนแห่งขุนเขาในจีน

เราเคยดูแต่หนังวัดเส้าหลิน บัดนี้เรามาอยู่บนเขาเช่นเดียวกับในหนังจีน ทำให้รู้ซื้งความยากลำบากของผู้ที่ต้องดั้นด้นขึ้นมาบนเขาสูง ยอดเขาที่สลับซับซ้อนนับไม่ถ้วนในดินแดนจีน เป็นที่อยู่แห่งปราชญ์โบราณที่อุบัติมาเพื่อสอนผู้คนทางศีลธรรม

ผจญภัยที่ดอยแขม

พระอาจารย์วิชัย โดดเดี่ยวเดียวดายในปาายอดดอยแขมสูงเสียดฟ้า ดอยสูงทอดยาวจากดินแดนจีนสู่ชายแดนพม่า อากาศหนาวเย็น ถนนป่าธรรมชาติ  ดอยสูงชันต้องลงเดินไปเพราะรถยนต์ปีนขึ้นไม่ไหวเครื่องยนต์ดับ นี่เรียกว่าไปถูดงค์โดยแท้ สองข้างมีแต่ดงพงพี นี่แหละเมืองจีนที่เคยดูแต่ในหนังจีน บัดนี้เราไปสัมผัสบรรยากาศของจริงกัน

พาหะนะของพระในจีน

หลวงพี่กับมอรืเตอร์ไชด์เป็นของคู่กัน ได้เรียนถามท่านเข้าอาวาสผู้มีสำนักอยู่บนเขาเหมือนในหนังจีน สมัยก่อนคงใช้ม้า แต่สมัยนี้ท่านใช้ม้าเหล็กควบขึ่้นเขาไป เห็นหน้าโผล่มาตอนเที่ยงคืน ผมก็ถามท่านเข้าอาวาสบนเขาว่าจะนอนที่นี่ไหมครับ ไม่นอนจะกลับวัด อากาผสหนาวมากนะครับ เดี๋ยวแข็งตายบนมอร์เตอร์ไชด์ ว่าแล้วก็ควบพาหนะคู่ใจขึ้นสู่ยอดเขา ไม่ใช่นิยาย เป็นเรื่องจริงเพิ่งไปเจอมาเมื่อไม่กี่วันนี้เองที่เมืองจีน

เมืองลอง สาธารณรัฐประชาชนจีน

พระอาจารย์พระครูประกาศพุทธพากย์ นั่งพักที่เมืองลอง ขณะรอรถจากเมืองเชียงขางมารับ เพื่อจะขึ้นสู่ยอดเขาดอยแขมที่สูงเสียดเมหต่อไป นับเป็นการเดินทางที่ทุรกันดานยิ่ง ต้องปีนไปตามไหล่เขาสูงบนทางที่เป็นดินบ้าง หินบ้างขรุขระ

พระครูสิริธรรมวิอเทศ (อุดม)

พระอาจารย์พระครูสิริธรรมวิเทศ (อุดม) เจ้าอาวาสวัดญาณรังษี เวอร์จีเนียร์ สหรัฐอเมริกา บนโขดหินเมืองเชียงรุ่ง มีป่าไม้เขี่ยวขจีเป็นฉากหลัง จากสิบสองปันนา จีน