วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

๖. สังฆาภิคีติ


. สังฆาภิคีติ
(หัวหน้านำ)
หันทะ มะยัง สังฆาภิคิติง กะโรมะ เสฯ            เราทั้งหลายจงขับสรรเสริญพระธรรมกันเถิด
(รับพร้อมกัน)
สัทธัมมะโช สุปะฏิปัตติคุณาทิยุตโต,               พระสงฆ์ที่เกิดโดยพระสัทธรรมประกอบด้วยคุณ
มีความปฏิบัติดีเป็นต้น
โยฏฐัพพิโธ อะริยปัคคะละสังฆะเสฏโฐ,          เป็นหมู่แห่งพระอริยบุคคลอันประเสริฐ จำพวก
สีลาทิธัมมะปะวะราสะยะกายะจิตโต,              มีกายและจิต อันอาศัยธรรมมีศีลเป็นต้นอันบวร
วันทามะหัง ตะมะริยานะคะณัง สุสุทธัง,         ข้าพเจ้าไหว้หมู่แห่งพระอริยเจ้าเหล่านั้นอันบริสุทธิ์
สังโฆ โย สัพพะปาณีนัง สะระณัง                    ด้วยดีพระสงฆ์หมู่ใดเป็นสรณะ
เขมะมุตตะมัง,                                                 อันเกษมสูงสุดของสัตว์ทั้งหลาย
ตะติยานุสสติฏฐานัง วันทามิ ตัง สิเรนะหัง,    ข้าพเจ้าไหว้พระสงฆ์หมู่นั้นอันเป็นที่ตั้งแห่ง
ความระลึกถึงองค์ที่สามด้วยเศียรเกล้า
สังฆัสสาหัสฺมิ ทาโส(ทาสี) วะ                          ข้าพเจ้าเป็นทาสของพระสงฆ์ พระสงฆ์เป็นนาย
สังโฆ เม สามิกิสสะโร,                                     มีอิสระเหนือข้าพเจ้า
สังโฆ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ วิธาตา จะ                พระสงฆ์เป็นเครื่องกำจัดทุกข์
หิตัสสะ เม,                                                      และทรงไว้ซึ่งประโยชน์แก่ข้าพเจ้า
สังฆัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,      ข้าพเจ้ามอบกายถวายชีวิตนี้แด่พระสงฆ์
วันทันโต(ตีหัง) จะริสสามิ                               ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตามซึ่งความปฏิบัติ
สังฆัสโสปฏิปันนะตัง,                                     ดีของพระสงฆ์
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง                                 สรณะอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
สังโฆ เม สะระณัง วะรัง,                                  พระสงฆ์เป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง                    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
สัตถุสาสะเน,                                                   ข้าพเจ้าพึงเจริญในพระศาสนาของพระศาสดา
สังฆัง เม วันทะมาเนนะ(มานายะ)                   ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งพระสงฆ์
ยัง ปัญญัง ปะสุตัง อิธะ,                                  ได้ขวนขวายบุญใดในบัดนี้
สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง                        อันตรายทั้งปวงอย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า
ตัสสะ เตชะสา,                                                            ด้วยเดชแห่งบุญนั้น
(หมอบลงว่า)
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,                       ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี
สังเฆ กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,                     กรรมอันน่าติเตียนอันใด ที่ข้าพเจ้ากระทำแล้ว
ในพระสงฆ์
สังโฆ ปะฏิคัณฺหะตุ อัจจะยันตัง,                     ขอพระสงฆ์ จงงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น
กาลันตะเร สังวะริตุง วะ สังเฆ.                        เพื่อการสำรวมระวังในพระสงฆ์ในกาลต่อไป

๕ สังฆานุสสติ


๕ สังฆานุสสติ
(หัวหน้านำ)
หันทะ มะยัง สังหานุสสตินะยัง กะโรมะ เสฯ  เราทั้งหลายจงขับสรรเสริญพระธรรมกันเถิด
(ร้บพร้อมกัน)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,          สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฏิบัติดีแล้ว
อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,          สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฏิบัติตรงแล้ว
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ปฏิบัติถูกแล้ว
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,    สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติชอบแล้ว
ยะทิทัง,                                                           คือ
จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ                               คู่แห่งบุรุษทั้งหลาย ๔
ปุริสะปุคคะลา,                                                            บุรุษบุคคลทั้งหลาย ๘
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,                      นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า
อาหุเนยโย,                                                       ท่านเป็นผู้ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา
ปาหุเนยโย,                                                      ท่านเป็นผู้ควรของต้อนรับ  
ทักขิเณยโย,                                                     ท่านเป็นผู้ควรทักษิณาทาน
อัญชะลีกะระณีโย,                                            ท่านเป็นผู้ควรทำอัญชลีกรรม
อะนุตตะรัง ปัญญักเขตตัง โลกัสสา ติ,             ท่านเป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาอื่นยิ่งกว่า ดังนี้
-----14-8-55

๓. ธัมมาภิคีติ


๓. ธัมมาภิคีติ
(หัวหน้านำ)
หันทะ มะยัง ธัมมาภิคีติง กะโรมะ เสฯ            เราทั้งหลายจงทำการขับสรรเสริญพระธรรมกันเถิด
(รับพร้อมกัน)
สฺวากขาตะตาทิคุณะโยคะวะเสนะ เสยโย,        พระธรรมเป็นสิ่งที่ประเสริฐเพราะประกอบด้วย
                                                                        คุณ มีความเป็นแห่งสาวกขาตะเป็นต้น 
โย มัคคะปากะปะริยัติติวิโมกขะเภโท,             อันใด ต่างด้วยมรรคผล ปริยัติ และวิโมกข์
ธัมโม กุโลกะปะตะนา ตะทะธาริธารี,               พระธรรมกันผู้ทรงธรรมนั้นจากความตกไปในโลกที่ชั่ว  
วันทามะหัง ตะมะหะรัง วะระธัมมะเมตัง,       ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรมอันขจัดความมืดอันนั้น 
ธัมโม โย สัพพะปาณินัง                                    พระธรรมอันใด เป็นสรณะอันเกษมสูด
สะระณัง เขมะมุตตะมัง,                                  ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ทุติยานุสสะติฏฐานัง วันทามิ ตัว สิเรนะหัง,   ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรมนั้น
ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งอนุสสติที่ ๒ด้วยเศ๊ยรเกล้า   
ธัมมัสสาหิสฺมิ ทาโส(ทาสี) วะ                          ข้าพเจ้าขอเป็นทาส(ทาสี)ของพระธรรมนั้นเทียว  
ธัมโม เม สามิกิสสะโร,                                     พระธรรมเป็นเจ้านายของข้าพเจ้า
ธัมโ ทุกขัสสะ ฆาตา จะ                                   พระธรรมเป็นธรรมกำจัดทุกข์ด้วย
วิธาตา จะ หิตัสสะ เม,                                      เป็นธรรมซึ่งทำประโยชน์เกื้อกูลแก่ข้าพเจ้าด้วย   
ธัมมัสสาหัง นิยยาเทมิ สะรีรัญชีวิตัญจิทัง,      ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตอันนี้แด่พระธรรม
วันทันโต(ตีหัง) จะริสสามิ ธัมมัสเสวะ              ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่จักประพฤติตาม
สุธัมมะตัง,                                                       ซึ่งความเป็นธรรมดีแห่งพระธรรมทีเดียว

นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง,                                สรณะอันอื่นของข้าพเจ้าไม่มี
ธัมโม เม สะระณัง วะรัง,                                  พระธรรมเป็นสรณะอันประเสริฐของข้าพเจ้า
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง                    ด้วยความกล่าวสัตย์นี้ ข้าพเจ้าพึงเจริญ
สัตถุสาสะเน                                                    ในพระศาสนาของพระศาสดา
,ธัมมัง เม วันทะมาเนนะ                                  บุญอันใด ข้าพเจ้าไหว้พระธรรม
(มานายะ)ยัง ปุญญัง ปะสุตัง อิธะ,                   ขวนขวายแล้วในที่นี้
สัพเพปิ อันตะรายา เม มาเหสุง ตัสสะ             แม้สรรพอันตรายทั้งหลาย อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดช
เตชะสา,                                                           แห่งบุญนั้น
(หมอบลงกล่าวว่า)
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสา วา,                       กรรมน่าเกลียดอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว
ธัมเม กุกัมมัง ปะกะตัง มะยา ยัง,                     ในพระธรรม ด้วยกายหรือวาจาใจ  
                         
ธัมโม ปฏิคคัณหะตุ อ้จจะยันตัง,                     ขอพระธรรม จงงดโทษนั้น 
กาลันตะเร สังวะริตัง วะ ธัมเม.                        เพื่อระวังต่อไปในพระธรรม