นรกนั้น เป็นสถานที่อยู่ของผู้ทำกรรมชั่วด้วย กาย วาจา ใจ อันประกอบด้วย
๑ กายทุจจริต ๓ ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม
๒ วจีทุจริต ๔ ได้แก่ พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ
๓ มโนทุจจริต ๓ ได้แก่ โลภอยากได้ของเขา คิดประทุษร้ายเขา เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
กรรมเหล่านี้เมือทำแล้วก็ต้องไปตกนรก เป็นเวลานานแสนนาน จึงจะพ้นจากกรรมชั่วนั้นได้ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะใด ยาก ดี มี จน ไม่มีใคร หรือผู้ใด พ้นจากกฏแห่งกรรมนี้ได้
คนโง่หรือที่บัณฑิตท่านเรียกว่า คนพาลสันดานหยาบนั้นคิดว่า การทำกรรมชั่วดี เหมือนของหวานที่เจือด้วยยาพิษ คือเห็นชั่วเป็นดี เห็นดีเป็นชั่ว เพราะความโง่เขลาเบาปัญญาของตน จึงได้ทำบาปกรรมนั้นๆ แล้วก็ได้รับผลแห่งวิบากกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนบัณฑิตผู้มีปัญญาก็สร้างแต่กรรมดี อันเว้นจากทุจจริตทั้ง ๓ ประการนั้น ก็ได้รับวิบากแห่งกรรมดี มีสุคคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น