วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มหาสติปัฏฐานสูตร 3 นิโรธ


3 นิโรธ
กะตะมัญจะ ภิกขะเว ทุกขะนิโรโธ                   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสัจคือ ทุกขนิโรธ
อะริยะสัจจัง                                                     (ธรรมเป็นที่ดับทุกข์เป็นอย่างไร?                   
โย ตัสสาเยวะ ตัณหายะ                                   (คือ)ความสำรอกและความดับโดยไม่มีเหลือ
อะเสสะวิคาคะนิโรโธ จาโค                              ความสละ ความส่งคืน ความปล่อยวาง ความไม่อาลัย
ปะฏินิสสัคโค มุตติ อะนาละโย                        ในตัณหานั้นนั่นแล อันใด
สา โข ปะเนสา ภิกขะเว ตัณหา                                    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ตัณหานั้นนั่นแล
กัตถะ ปะหิยะมานา ปะหิยะติ                          เมื่อบุคคละจะละเสีย ย่อมละเสียได้ในที่ไหน
กัตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                         เมื่อจะดับ ย่อมดับในที่ไหน
ยัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                             ที่ใดเป็นที่รักใคร่ เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ในที่นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับในที่นั้น
กิญจะ โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                       ก็อะไรเล่า เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
1จักขุง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      ตา เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ที่ตานั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ตานั้น
2โสตัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      หู เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ที่หูนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่หูนั้น
3ฆานัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                     จมูก เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้
ที่จมูกนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่จมูกนั้น
5ชิวหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      ลิ้น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ที่ลิ้นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ลิ้นนั้น
6กาโย โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                       กาย เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ที่กายนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่กายนั้น
6มะโน โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      ใจ เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียได้ที่ใจนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ใจนั้น
1รูปา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                    รูป เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่รูปนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่รูปนั้น
2สัททา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                     เสียง เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่เสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่เสียงนั้น
3คันธา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      กลิ่น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่กลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่กลิ่นนั้น
4ระสา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                       รส เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่รสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่รสนั้น
5โผฏฐัพพา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง              โผฏฐัพพะ เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่
โผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่โผฏฐัพพะนั้น
6ธัมมา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                      ธัมมารมณ์ เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสียก็ย่อมละเสียที่
ธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ธัมมารมณ์นั้น
1จักขุวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง        ความรู้ทางตาเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย ก็ย่อมละเสียได้ที่
ความรู้ทางตานั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางตานั้น
2โสตะวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความรู้ทางหูเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย ก็ย่อมละเสียได้ที่
ความรู้ทางหูนั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางหูนั้น
3ฆานะวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง      ความรู้ทางจมูกเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย ก็ย่อมละเสียได้
ที่ความรู้ทางจมูกนั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางจมูกนั้น
4ชิวหาวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง      ความรู้ทางลิ้นเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความรู้ทางลิ้นนั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางลิ้นนั้น
5กายะวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความรู้ทางกายเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความรู้ทางกายนั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางกายนั้น
6มะโนวิญญาณัง โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง      ความรู้ทางใจเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้นเมื่อบุคคลจะละเสีย ก็ย่อมละเสียได้ที่
ความรู้ทางใจนั้น
เอตถะ นิรัชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความรู้ทางใจนั้น
1 จักขุสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง         ความกระทบทางตาเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางตานั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางตานั้น
2 โสตะสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความกระทบทางหูเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางหูนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางหูนั้น
3 ฆานะสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง      ความกระทบทางจมูกเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางจมูกนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางจมูกนั้น
4 ชิวหาสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความกระทบทางลิ้นเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางลิ้นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางลิ้นนั้น
5 กายะสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง        ความกระทบทางกายเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางกายนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางกายนั้น
6 มะโนสัมผัสโส โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความกระทบทางใจเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความกระทบทางใจนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่ความกระทบทางใจนั้น
1 จักขุสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                        เวทนาที่เกิดแต่จักษุสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่จักษุสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่จักษุสัมผัสนั้น
2 โสตะสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                      เวทนาที่เกิดแต่โสตสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่โสตสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่โสตสัมผัสนั้น
3 ฆานะสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                     เวทนาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่ฆานสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่ฆานสัมผัสนั้น
4 ชิวหาสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                      เวทนาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่ชิวหาสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่ชิวหาสัมผัสนั้น
5 กายะสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                       เวทนาที่เกิดแต่กายสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่กายสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่กายสัมผัสนั้น
6 มะโนสัมผัสสะชา เวทนา โลเก                      เวทนาที่เกิดแต่มโนสัมผัส เป็นที่รักใคร่
ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                          เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่เวทนา ซึ่งเกิดแต่มโนสัมผัสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับก็ย่อมดับที่เวทนาซึ่งเกิดแต่มโนสัมผัสนั้น
1 รูปะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                        ความจำรูป เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำในรูปนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำรูปนั้น
2 สัททะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง         ความจำเสียง เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำในเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำเสียงนั้น
3 คันธะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความจำกลิ่น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำในกลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำกลิ่นนั้น
4 ระสะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง           ความจำรส เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำในรสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำรสนั้น
5 โผฏฐัพพะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง  ความจำโผฏฐัพพะ เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำในโผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำโผฏฐัพพะนั้น
6 ธัมมะสัญญา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความจำธัมมารมณ์ เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคละจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความจำธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความจำธัมมารมณ์นั้น
1 รูปสัญเจตะนา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง       ความคิดถึงรูป เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถึงรูปนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงรูปนั้น
2 สัททะสัญเจตะนา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง  ความคิดถึงเสียง เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถึงเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงเสียงนั้น
3 คันธะสัญเจตะนา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง  ความคิดถึงกลิ่น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถึงกลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงกลิ่นนั้น
4 ระสะสัญเจตะนา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง   ความคิดถึงรสเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถึงรสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงรสนั้น
5 โผฏฐัพพะสัญเจตะนา                                  ความคิดถึงโผฏฐัพพะ
โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                                  เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถงโผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงโผฏฐัพะนั้น
6 ธัมมะสัญเจตะนา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง   ความคิดถึงธัมมารมณ์ เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความคิดถึงธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความคิดถึงธัมมารมณ์นั้น
1 รูปะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง             ความอยากในรูป เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในรูปนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในรูปนั้น
2 สัททะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความอยากในเสียง เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในเสียงนั้น
3 คันธะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความอยากในกลิ่น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในกลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในกลิ่นนั้น
4 ระสะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง           ความอยากในรส เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในรสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในรสนั้น
5 โผฏฐัพพะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง   ความอยากในโผฏฐัพพะ เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในโผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในโผฏฐัพพะนั้น
6 ธัมมะตัณหา โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความอยากในธัมมารมณ์ เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความอยากในธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความอยากในธัมมารมณ์นั้น
1 รูปะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง                        ความตรึกถึงรูปเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงรูปนั้น
2 สัททะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง         ความตรึกถึงเสียงเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงเสียงนั้น
3 คันธะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความตรึกถึงกลิ่นเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงกลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงกลิ่นนั้น
4 ระสะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง           ความตรึกถึงรสเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงรสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงรสนั้น
5 โผฏฐัพพะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง  ความตรึกถึงโผฏฐัพพะเป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงโผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงโผฏฐัพพะนั้น
6 ธัมมะวิตักโก โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความตรึกถึงธัมมารมณ์เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ         ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรึกถึงธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรึกถึงธัมมารมณ์นั้น
1 รูปะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง             ความตรองถึงรูป เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงรูปนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงรูปนั้น
2 สัททะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง          ความตรองถึงเสียง เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงเสียงนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงเสียงนั้น
3 คันธะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง           ความตรองถึงกลิ่น เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงกลิ่นนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงกลิ่นนั้น
4 ระสะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง            ความตรองถึงรส เป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงรสนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงรสนั้น
5 โผฏฐัพพะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง   ความตรองถึงโผฏฐัพพะ เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงโผฏฐัพพะนั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงโผฏฐัพพะนั้น
6 ธัมมะวิจาโร โลเก ปิยะรูปัง สาตะรูปัง           ความตรองถึงธัมมารมณ์ เป็นที่รักใคร่
เป็นที่พอใจในโลก
เอตเถสา ตัณหา ปะหิยะมานา ปะหิยะติ           ตัณหานั้น เมื่อบุคคลจะละเสีย
ก็ย่อมละเสียได้ที่ความตรองถึงธัมมารมณ์นั้น
เอตถะ นิรุชฌะมานา นิรุชฌะติ                        เมื่อจะดับ ก็ย่อมดับที่ความตรองถึงธัมมารมณ์นั้น
อิทัง วุจจะติ ภิกขะเว                                       ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้ที่กล่าวว่า
ทุกขะนิโรโธ อะริยะสัจจัง                                อริยสัจคือทุกขนิโรธ(ธรรมเป็นที่ดับทุกข์)

ไม่มีความคิดเห็น: