สัฏเฐเต เทวดนิกายา หมู่เทพดาทั้งหลาย ๖๐ นี้
สัพเพ นานัตตะวัณณิโน ล้วนมีรัศมีต่างๆ กันทั้งหมด
นามันวะเยน อาคุญฉุง มาแล้วโดยกำหนดชื่อ
เย จัญเญ สะทิสา สะหะ เทพดาทั้งหลายเหล่าอื่นนั้น ก็มาพร้อมกัน ด้วยคิดว่า
ปะวัตถะชาติมักขีลัง เราทั้งหลาย จักเห็นพระนาคผู้ปราศจากชาติ ผู้ไม่มี
โอฆติณณะมะนาสะวัง กิเลสดุจตาปู ผู้มีโอฆะอันข้ามได้แล้ว ผู้ไม่มีอาสวะ
ทักะเขโมฆะตะรัง นาคัง ผู้พ้นจากโอฆะ
จันทังวะ อะสิตาติตัง ผู้ล่วงกรรมดำ คืออกุศลได้แล้ว ดุจพระจันทร์
พ้นจากเมฆพลาหก ฉะนั้น
สุพะระหะมา ปะระมัตโต จะ สุพรหมกับประมัตตพรหม เป็นบุตร
ปุตตา อิทธิมะโต สะหะ ของท่านผู้มีฤทธิก็มาด้วย
สันนังกุมาโร ติสโส จะ สันนังกุมารพรหมกับติสสพรหม
โสปาคะ สะมิตัง วะนัง แม้ก็เข้าสู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
สะหัสสพะระหะมะโลกานัง ท้าวมหาพรหม
มะหาพะระหะมาภิติฏฐะติ ย่อมปกครองพรหมโลกพันหนึ่ง
อุปปันโน ชุติมันโต บังเกิดแล้วในพรหมโลก มีอานุภาพ
ภิสะมากาโย ยะสัสสิ โส มีกายใหญ่โต มียศ ก็มา
ทะเสตถะ อิสสะรา อาคู พรหมทั้งหลาย ๑๐ เป็นอิสระในพวกพรหม
ปัจเจกะวะสวัตติโน พันหนึ่งๆ นั้น ก็มามีอำนาจอันเป็นไปต่างๆ กัน
เตสัญจะ มัชฌดต อาคา มหาพรหมนั้น ชื่อหาริตะ อันบริวารแวดล้อมแล้ว
หาริโต ปะริวาริโต มาในท่ามกลางแห่งพรหมทั้งหลายเหล่านั้น
เต จะ สัพเพ อะภิกกันเต มารเสนา ได้เห็นพวกเทวดาพร้อมด้วยพระอินทร์
สินเท เทเว สะพะระหะมะเก พระพรหมทั้งหมดนั้น
มาระเสนา อะภิกกามิ ก็มาด้วย
ปัสสะ กัณหัสสะ มันทิยัง แล้วกล่าวว่า ท่านจงดูความเขลาของพวกข้าศึก
เอถะ คัณหะถะ พันธะถะ พญามารจึงกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงมาจับเทวดา
ราเคนะ พันธะมัตถุ โว เหล่านี้ผูกไว้
สะมันตา ปะริวาเรถะ ผูกด้วยราคะ จึงมีแก่ท่านทั้งหลาย
มา โว มุญจิตถะ โกจิ นัง ท่านทั้งหลายอย่าปล่อยใครๆ ไป
อิติ ตัตถะ มะหาเสโน พญามาร บังคับเสนามาร
กัณหะเสนัง อะเปสะยิ ในที่ประชุมนั้น ดังนี้
ปาณินา ตะสะมาหัจจะ แล้วตบแผ่นดินด้วยฝ่ามือ
สะรัง กัตฺวานะ เภระวัง กระทำเสียงน่ากลัว
ยะถา ปาวุสสะโก เมโฆ เหมือนมหาเมฆยังในให้ตก
ถะนะยันโต สะวิชชุโก คำรามอยู่ เป็นไปกับด้วยฟ้าแลบ
ตะทา โส ปัจจุทาวัตติ ในกาลนั้น พญามารนั้นไม่ยังใคร
สังกุทโธ อะสะยังวะเส ให้เป็นไปในอำนาจได้เสียใจกลับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น