เมื่อนานมาแล้วหากนับย้อนกลับไปก็ประมาณ ปี ๒๕๓๕ เมื่อพระอาจารย์พระครูประกาศพุทธพากย์ชักชวนเพื่อนสหธรรมมิกมีพระอาจารย์พระครูสิริธรรมวิเทศที่ยืนอยู่กลางในภาพ มีลุงภารโรงโรงเรียนวัดมกุฏกษัตริยารามที่กำลังถือด้ามจอบยืนด้านหน้า พร้อมด้วยผู้เขียนยืนอยู่ด้านหลัง ที่เรายืนอยู่เป็นพื้นที่ราบใกล้ๆศาลาปฏิบัติธรรมบนยอดเขาชมพู่ หากออกจากบริเวณตรงนี้ที่เป็นป่าดงดิบด้านหลังออกไป จะเป็นบริเวณป่าชื้น อุดมไปด้วยตัวทากดูดเลือดเป็นแสนเป็นล้านอาศัยอยู่ในป่านี้คอยดูดเลือดคนและสัตว์ที่ผ่านเข้าไป หากต้องการไปภาวนาในพื้นที่นอกจากตรงที่เราทำความสะอาดปัดกวาดดายหญ้าและเป็นพื้นดินที่แห้งตรงนี้แล้ว ต้องขึ้นไปทำห้างอยู่บนต้นไม้ เพื่อนั่งภาวนา ถ้าไม่เช่นนั้นก็จะถูกทากมาดูดเลือดจนตายเดียว ส่วน้ำดื่มต้องสบายกันขึ้นไป เพราะน้ำข้างบนไม่เหมาะในการดื่ใแต่ใช้่สำหรับอาบได่ ห่างจากศาลาไปทางทิศตะวัีนตกประมาณ ๒๐ เมตร จะมีบ่อน่้ำเป็นแอ่งหิน ผู้คนเรียกบ่อน้ำนี้ว่า บ่อน้ำพระเจ้าตาก ส่วนเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตากเป้นประการใดผู้เขียนก็ไม่สามารถสืบค้นนำมาเสนอได้ พระอาจารย์เล่าว่า สถานที่ปฏิบัีติธรรมบนเขาชมพู่แห่งนี้เป็นที่ร่ำลือกันมาแต่โบราณว่าเป็นสถานที่
บรรดาครูบาอาจารย์ในปางก่อนได้เคยมาอาศัยปฏิบัติธรรมแล้วได้ผลดีเป็นที่น่าพอใจทุกท่าน จึงได้มาทดลองดูบ้าง ขณะนั้นได้มีหลวงตา ดร.ช่วน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลัดขิกก็มาปฏิบัติอยู่ที่นี่ด้วย ภายหลังได้บอกกับพระอาจารย์ว่า "ผมแก่แล้วขึ้นไม่ไหว ขอให้ท่านมหารับผิดชอบสถานปฏิบัติธรรมยอดเขาชมพู่ด้วยนะ" จากนั้นมาก็ได้อยู่ปฏิบัติที่นี่พร้อมพาคณะย้ายไปลองปฏิบับัติตามที่ต่างๆในเมือกเขาแห่งนี้ จนได้พบได้เห็นมีประสบการณ์น่านำมาเล่าก็คือเรนื่องเทพธิดาแห่งต้นตะเคียนใหญ่ เทพธิดาท่านนี้ได้มาสเกี่ยวข้องกับพระอาจารย์อย่าางไร ก็คือคราสวหนึ่ง พระอาจารย์พาคณะขึ้นไปปฏิบัติธรรม โดยให้เณรเอาข้าวสารขึ้นไปต้มใส่น่ำเยอะๆ แบ่งกันกิน จนข้าวหมด ยังไม่อยากลงมา ก็เลยให้เณรลงมาเอาข้าวสารคนเดียว เณรลงมาหาหลวงตาที่สำนักเชิงเขาแล้วก็เอาข้าวขึ้นไป เกิดหลงป่า ใกล้มืดค่ำเข้าทุกที ในป่าก็อุดมด้วยสัตว์ป่านานาชนิด มี เสือ หมูป่า หมี เป็นต้นท่องเที่ยวอยู่ในป่านี้ เมื่อจนตรอกหาทางทางไปไม่ได้หลงป่าจึงอธิษฐานขอเทวดาช่วย เทพธิดาท่านนี้จึงได้นำสามเณรขึ้นไปหาพระอาจารย์โดยปลอดภัย พวกเราจึงได้ไปเยี่ยมขอบคุณท่านที่ต้นตะเคียนใหญ่ท่านสิงสถิตอยู่ มีประสบการเกี่ยวกับการภาวนามากมาย มีเวลาจะได้เล่าให้ฟังอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น