ถ้าจะสรุปให้สั้นเข้า
หลักในการปฏิบัติก็มีดังนี้ คือ To
summarize, the basic steps to practice are as follows:
๑
กำจัดอารมณ์ที่ชั่วออกจากจิตให้หมด 1 Eliminate all bad pre—occupations from the mind.
๒
ทำจิตให้อยู่ในอารมณ์ที่ดี 2 Make the mind dwell on good pre-occupations.
๓
อารมณ์ที่ดีต่างๆ
ให้ต้อนเข้าไปรวมอยู่ในจุด 3 Gather all good pre-occupations into a single
point, i.e.
อันเดียวที่เรียกว่า
เอกัคคตารมณ์ the
single pre-occupation of meditative absorption(jhāna).
๔
พิจารณาอารมณ์หนึ่งนั้นให้เป็น
อนิจจัง 4
Consider this one pre-occupation until you see the way
ไม่เที่ยง
ทุกขัง เป็นทุกข์ อนัตตา ไม่ใช่ in
which it is aniccaṃ, inconstant: dukkhaṃ, stressful:
ตัวตน
สัตว์บุคคลว่างเปล่า anattā, not the self, not a
being, not an individual, empty.
๕
วางอารมณ์ทีดีและอารมณ์ที่ชั่วไปตามสภาพ Let all good and bad dwell together, and are not of an equal
ของอารมณ์ nature.—because
good and bad dwell together, and are of
เพราะดีและชั่วย่อมอยู่ด้วยกัน
มีสภาพ an
equal nature. Let the mind follow its own nature. Let
เสมอกัน
วางจิตไว้ตามสภาพของจิต รู้ไว้ตามสภาพ knowing follow its own nature. Knowing doesn’t arise, and
แห่งรู้
รู้นั้นไม่รู้จักเกิด ไม่รู้จักดับ นั้นแลคือ สันติธรรม doesn’t fall away. This is santi-dhamma, inherent peace. It
ดีก็รู้
ดีไม่ใช่รู้ รู้ไม่ใช่ดี ชั่วก็รู้ รู้ไม่ใช่ชั่ว ชั่วไม่ใช่รู้ knows evil, but knowing isn’t evil, and evil isn’t knowing.
คือรู้ไม่ติดความรู้
รู้ไม่ติดสิ่งที่รู้ นั้นแหละคือ ธรรมชาติ I.e. knowing isn’t attached to knowledge or to the thing
ธาตุแท้อันบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เหมือนน้ำ ที่อยู่ในใบบัว known.
Its nature is truly elemental—flawless and pure, like
ฉะนั้นจึงเรียกว่า
อสังขตะธาตุ เป็นธาตุแท้ a
drop of water on a lotus leaf. This is why it is called
asaṅkhata-dhātu – the unfashioned
property,
a true element.
เมื่อใครทำได้เช่นนี้
ก็จะเห็นของดีวิเศษเกิดขึ้นในใจ When you can follow these
five steps, you will find
แห่งตน จะเป็นกุศลวาสนาบารมีของท่านผู้ปฏิบัติ marvels appearing in your heart, the results of having
ในทางสมถกัมมัฏฐาน
วิปัสสนากัมมัฏฐาน จะได้ผล ๒ practiced
tranquility and insight meditation. These results
ประการกล่าวคือ
โลกียผลที่จะให้สำเร็จประโยชน์ fall
into the two classes already mentioned: mundane,
อนามัยของร่างกายแห่งท่าน
และคนอื่นๆ ทั่วไป providing
for your own physical well-being and that ot
ในสากลโลกนี้
ประการหนึ่ง ประการที่ ๒ จะได้ others
throughout the world; and transcendent, providing
โลกุตรผลอันเป็นประโยชน์อนามัยในด้านจิตใจ for the well-being of your heart,
bringing happiness
ของท่าน
มีความสุข ความเยือกเย็น และความราบ which
is calm, cool and blooming, leading all the way
รื่นชื่นบาน
ก็จะถึงพระนิพพาน เป็นเบื้องหน้า ไม่ต้อง to nibbāna—free from birth,
เกิด
แก่ เจ็บ ตาย ageing,
sickness and death.
ได้อรรถาธิบายมาโดยย่อ
พอเป็นหัวข้อปฏิบัติของท่าน This
has been a brief explanation of the main principles
พุทธบริษัทผู้นับถือพระพุทธศาสนา
หากท่านมีความ of
meditation. If you have any question, or if you
สงสัยขัดข้องจากการปฏิบัติตามแนวคิดดังกล่าวไว้ใน encounter any obstacles in putting these principles
ตำราเล่มนี้โดยประการใดๆ
ต้องการจะศึกษาจากผู้ into
practice, and wish to study directly with someone
ให้แนวความคิดที่กล่าวมานี้
ยินดีทีจะส่งเสริมชี้แจง who
teaches along these lines, I will be happy to help
ข้อสงสัยของท่าน
ตามกำลังความสามารถของผู้เขียน and
advise you to the best of my ability, so that we
เพื่อให้สำเร็จสันติสุขในทางพระศาสนาโดยทั่วหน้ากัน can all come to know the peace and well-being offered
by the religion.
สำหรับผู้ปฏิบัติทั่วๆไป
ควรจะยึดเอาวิธีที่ ๒ ดังต่อไป Most
people will find that Method 2, which follows, is
นี้ ซึ่งจะได้รับความสะดวกสบายกว่าแบบที่
๑ ที่กล่าว easier and
more relaxing than Method 1,
มาแล้ว outlined
above.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น