ภัทเทกรัตตคาถา
หันทะมะยัง ภัทเทกะรัตตะคาถาโย ภะณามะเส ฯ
อะตีตัง นานวา คะเมยยะ ผู้มีปัญญา ไม่ควรตามคิดถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยความอาลัย,
นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง และไม่ตั้งความหวัง พะวงถึงอนาคต คือถึงสิ่งที่
ยะทะตีตัม ปะหีนันตัง ยังมาไม่ถึง,สิ่งที่ล่วงแล้วไปนั้น ก็ได้ล่วงไปแล้ว
อัปปัตตัญจะ อะนาคะตัง. สิ่งที่ยังไม่มีมานั้น ก็ยังมาไม่ถึง,
ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ผู้ใดมองเห็นธรรมในสิ่งที่ปรากฏอยู่
ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ เฉพาะหน้านั้นๆ อย่างชัดแจ้ง
อะสังหิรัง อะสังกุปปัง ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลนสงสัย
ตัง วิทธา มะนุพฺรูหะเย, ในเหตุปัจจัยที่มาของปัจจุบันธรรมนั้น
เขาพากเพียรดีแล้วในปัจจุบันธรรม
ควรพอกพูนทำให้มากยิ่งขึ้น
อัชเชวะ กิจจะมาตัปปัง ความเพียรเพื่อเผากิเลส เป็นกิจที่ควรเร่งรีบ
โก ชัญญา มะระณัง สุเว ควรทำเสียในวันนี้ ดีกว่าก็ใครเล่า จะสามารถรู้ว่า
ความตายจะมีมา ในวันพรุ่งนี้ก็ได้.
นะ หิ โน สังคะรันเตนะ เพราะการผัดเพี้ยนต่อสู้กับพญามัจจุราช
มะหาเสนานะ มัจจุนา ผู้มีเสนาใหญ่ ย่อมไม่ได้เลย
เอวัง วิหาริมาตาปิง บัณฑิต ย่อมกล่าวสรรเสริญผู้ที่มีธรรมเครื่องเผากิเลส
อะโหรัตตะมะตันทิตัง เป็นเครื่องอยู่,
ตัง เว ภัทเทกะรัตโตติ เพียรเผาอย่างไม่เกียจคร้านทั้งกลางวันกลางคืนนั้นแล
สันโต อาจิกขะเต มุนิ ติ ฯ ว่าเป็นมุนีผู้สงบ เป็นผู้มีราตรีเดียวอันเจริญ ดังนี้แล ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น