วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ป่าช้า ๒


2 ปุนะ จะปะรัง ภิกขะเว ภิกขุ                          ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้ออื่นยังมีอยุ่อีก
เสยยะถาปิ ปัสเสยยะ สะรีรัง                           เหมือนกะว่าพึงเห็นสรีระ(ซากศพ)
สีวะถิกาย ฉัทฑฑิตัง                                       ที่เขาทิ้งไว้แล้วในป่าช้า
กาเกหิ วา ขัชชะมานัง                                      อันฝูงกาจิกกินอยู่บ้าง
คิชเฌหิ วา ขัชชะมานัง                                    ฝูงแร้งจิกกินอยู่บ้าง
กุลเลหิ วา ขัชชะมานัง                                     ฝูงนกตระกรุมจิกกินอยู่บ้าง
สุวาเณหิ วา ขัชชะมานัง                                  หมู่สุนัขกัดกินอยู่บ้าง
สิงคาเลหิ วา ขัชชะมานัง                                 หมู่สุนัขจิงจอกกัดกินอยู่บ้าง
วิวิเธหิ วา ปาณกะชาเตหิ ขัชชะมานัง              หมู่สัตว์ตัวเล็กๆ ต่างๆ กัดกินอยู่บ้าง
โส อิเมะเมวะ กายัง อุปะสังหะระติ                   เธอก็น้อมเข้ามาสู่กายนี้นี่แลว่า
อะยัมปิ โข กาโย                                               ถึงร่างกายอันนี้เล่า
เอวังธัมโม                                                        ก็มีอย่างนี้เป็นธรรมดา
เอวังภาวี                                                          คงเป็นอย่างนี้
เอวัง อะนะตีโตติ                                              ไม่ล่วงพ้นความเป็นอย่างนี้ไปได้
อิติ อัชฌัตตัง วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ    ดังนี้ ภิกษุย่อมพิจารณาเห็น
กายในกายเป็นภายในบ้าง
พะหิทธา วา กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ          ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายนอกบ้าง
อัชฌัตตะพะหิทธา วา                                      ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย
กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ                               ทั้งภายในทั้งภายนอกบ้าง
สะมุทะยะธัมมานุปัสสี วา                                ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา
กายัสมิง วิหะระติ                                            คือ ความเกิดขึ้นในกายบ้าง
วะยะธัมมานุปัสสี วา กายังมิง วิหะระติ           ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดาคือความเสื่อมไปในกายบ้าง
สะมุทะยะวะยะธัมมานุปัสสี วา                       ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดาคือทั้งความเกิดขึ้น
กายัสมิง วิหะระติ                                            ทั้งความเสื่อมไปในกายบ้าง
อัตถิ กาโยติ วา ปะนัสสะ                                 ก็หรือสติว่ากายมีอยู่ เข้าไปตั้งอยู่
สะติ ปัจจุปัฏฐิตา โหติ                                     เฉพาะหน้าแก่เธอนั้น
ยาวะเทวะ ญาณะมัตถายะ                               แต่เพียงสักว่าเป็นที่รู้
ปะติสสะติมัตตายะ                                          แต่เพียงสักว่าเป็นที่อาศัยระลึก
อะนิสสิโต จะ วิหะระติ                                    เธอย่อมไม่ติดอยู่ด้วย
นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ                            ย่อมไม่ยึดถืออะไรๆ ในโลกด้วย
เอวัมปิ ภิกขะเว ภิกขุ                                        ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกาย
กาเย กายานุปัสสี วิหะระติ                               ในกายเนื่อง ๆอยู่อย่างนี้

ไม่มีความคิดเห็น: