10 กะตะโม จะ ภิกขะเว ปิเยหิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความพลัดพรากจากสัตว์และสังขาร
วิปปะโยโค ทุกโข ซึ่งเป็นที่รัก เป็นทุกข์อย่างไร ?
อิธะ ภิกขะเว ยัสสะ เต โหนติ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อารมณ์เหล่าใดในโลกนี้ ซึ่งเป็นที่
อิฏฐา กันตา มะนาปา รูปา ปรารถนา เป็นที่รักใคร่ เป็นที่ปลิ้มใจ คือ รูป เสียง กลีน รส
สัททา คันธา ระสา โผฏฐัพพา และอารมณ์ที่จะพึงถูกต้องด้วยกาย ย่อมมีแก่ผู้นั้น
เย วา ปะนัสสะ เต โหนติ อนึ่ง หรือชนเหล่าใด ทึ่ใคร่ต่อความเจริญ ใคร่ประโยชน์
อัตถะกามา หิตะกามา ผาสุกามา เกื้อกูล ใคร่ความสำราญ และใคร่ความเกษม
โยคักเขมะกามา จากเครื่องประกอบแก่ผู้นั้น
มาตา วา ปิตา วา คือ มารดา หรือ บิดา
ภาตา วา ภะคินี วา พี่ชาย น้องชาย หรือพี่หญิง น้องหญิง
มิตตา วา อะมัจจา วา มิตร หรืออำมาตย์
ญาติสาโลหิตา วา หรือญาติสาโลหิต
ยา เตหิ อะสังคะติ อะสะมาคะโม ความไม่ไปร่วม ความไม่มาร่วม ความไม่ประชุมร่วม
อะสะโมทานัง อะมิสสีภาโว ความไม่ระคน กับด้วยอารมณ์และสัตว์เหล่านั้นอันใด
อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้ที่กล่าวว่า ความพลัด
ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข พรากจากสัตว์และสังขาร ซึ่งเป็นที่รัก เป็นทุกข์
11 กะตะมัญจะ ภิกขะเว ยัมปิจฉัง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ปรารถนาสิงใดย่อมไม่ได้ แม้ของ
นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง ที่ไม่สมประสงค์นั้น เป็นทุกข์ อย่างไรเล่า?
ชาติธัมมานัง ภิกขะเว สัตตานัง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความปรารถนา
ย่อมเกิดขึ้นแก่เหล่าสัตว์
เอวัง อิจฉา อุปปัชชะติ ที่มีความเกิดเป็นธรรมดาอย่างนี้ว่า
อะโห วะตะ มะยัง นะ ชะราธัมมา อัสสามะ เออหนา ขอเราพึงเป็นผู้ไม่มีความเกิดเป็นธรรมดาเถิด
นะ จะ วะตะ โน อาคัจเฉยยาติ อนึ่ง ขอความเกิดอย่ามีมาถึงแก่เราเลยหนา ดังนี้
นะ โข ปะเนตัง อิจฉายะ ปัตตัพพัง ข้อนั้น สัตว์ไม่พึงได้ตามความปรารถนาโดยแท้
อิทัมปิ ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ต้มปิ ทุกขัง แม้ข้อนี้ก็ชื่อว่า ยัมปิจฉังนลภติตัมปิทุกข์
(สัตว์ปรารถนาสิงใดย่อมไม่ได้ แม้ข้อที่ไม่ประสงค์
นั้นก็เป็นทุกข์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น