โพชฌังคะปะริตตัง
โพชฌังโค สะติสังขาโต โพชฌงค์ ๗ ประการคือ สติสัมโพชฌงค์
ธัมมานัง วิจะโย ตะถา ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์
วิริยัมปิติปัสสัทธิ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์
โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
สมาธุเปกขะโพชฌังคา สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์เหล่านี้
สัตเตเต สัพพะทัสสินา อันพระมุนีเจ้าผู้เห็นธรรมทั้งสิ้น
มุนินา สัมมะทักขาตา ตรัสไว้ชอบแล้ว
ภาวิตา พหุลีกะตา อันบุคคลมาเจริญทำให้มากแล้ว
สังวัตตันติ อะภิญญายะ ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
นิพพานายะ จะ โพธิยา เพื่อนิพพาน และเพื่อความตรัสรู้
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยความกล่าวสัตย์นี้
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อ
เอกัสมิง สะมะเย นาโถ ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตร
โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง พระโมคคัลลานะและพระกัสสปะ เป็นไข้
คิลาเน ทุกขิเต ทิสะวา ทุกขเวทนาแล้ว
โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ ทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการ
เต จะ ตัง อภินันทิตวา ท่านทั้ง ๒ ก็เพลิดเพลินภาษิตนั้น
โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ หายโรคในขณะนั้น
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยความกล่าวสัตย์นี้
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อ
เอกะทา ธัมมะราชาปิ ครั้งหนึ่ง แม้พระธรรมราชา
เคลัญเญนาภิปีฬิโต อันความประชวรเบียดเบียนแล้ว
จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ รับสั่งให้พระจุนทะเถระ แสดง
ภะณาเปตฺวานะ สาทะรัง โพชฌงค์นั้นโดยยินดี
สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย
ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส หายความประชวรไปโดยฐานะ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยความกล่าวสัตย์นี้
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อ
ปะหีนา เต จะ อาพาธา ก็อาพาธทั้งหลายนั้น
ตัณณันนัมปิ มะเหสินัง อันพระมหาฤาษีทั้ง ๓ องค์ละได้แล้ว
มัคคาหะตะกิเลสาวะ ถึงความไม่บังเกิดเป็นธรรมดา
ปัตตานุปัตติธัมมะตัง ดุจกิเลสอันมรรคกำจัดแล้ว
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ ด้วยความกล่าวสัตย์นี้
โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านในกาลทุกเมื่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น