วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Meditation Handbook 5

วิธีทำสมาธิเบื้องต้น                                         Preliminaries of Concentration
ต่อไปนี้จะได้อรรถาธิบายข้อปฏิบัติในทางสมาธิภาวนา   Now we will explain how to go about the practice of
ว่าจะต้องทำกันอย่างไร ก่อนทีจะทำ กิจเบื้องต้นนั้น        centering the mind. Before starting out, kneel down with
ให้นั่งคุกเข่าประณมมือด้วยความตั้งใจ นอบน้อม                             your hands palm-to-palm in front of your heart, and
ถึงพระรัตนครัย แล้วเปล่งวาจา ดังต่อไปนี้                        sincerely pay respect to the Triple Gem, saying as follow:

กล่าวนอบน้อมพระรัตนตรัย                                                                Respecting to the Triple Gem.
อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ภควา,                                                                Arahaṃ sammāsambuddho bhagavā,
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ                                             buddhaṃ bhagavantaṃ abhivādemi,
(กราบลงหนหนึ่ง นี่ไหว้พระพุทธ)                                     (bown down)
สาวกขาโต ภควตา ธัมโม,                                                    Savakkhāto bhagavatā dhammo,
ธัมมัง นมัสสามิ                                                                      Dhammaṃ namassāmi
(กราบลงหนหนึ่ง นี้ไหว้พระธรรม)                                    (bow down)
สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ,                                         Supaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho
สังฆังนะมามิ                                                                          Saṅghaṃ namāmi
 (กราบลงหนหนึ่ง นี้ไหว้พระสงฆ์)                                     (bow down)

กล่าวนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า                                   Paying homage to the Buddha.
ลำดับนี้ ตั้งใจปฏิบัติบูชาด้วย กาย วาจา ใจ                         Then, showing respect with your thoughts, words and
กล่าวคำนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า                         deeds, pay homage to the Buddha.
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต                                 Namo tassa bhagavato arahato
สัมมา สัมพุทธัสสะ                                                                sammā-sambuddhassa
(ว่า ๓ หน)                                                                              (three times)

ปฏิญาณตนถือเอาพระรัตตรัยเป็นที่พึ่ง                                               Refuge to the Triple Gem.
ปฏิญาณตน ถือเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก                             And  then take refuge in the Triple Gem
ของตนที่เรียกว่า พระไตรสรณคมน์ ว่าตามบาลี ดังนี้       in Pali as follow:
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ                                                             Buddhaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ                                                              Dhamaṃ saraṇaṇ gacchāmi
สังหัง สรณัง คัจฉามิ                                                              Saṅghaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ                                                               Dutiyampi buddhaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ                                                               Dutiyampi dhammaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ                                                               Dutiyampi Saṅghaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ตติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ                                                               Tatiyampi buddhaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ตติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ                                                                Tatiyampi dhammaṃ saraṇaṇ gacchāmi
ตติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ                                                                Tatiyampi Saṅghaṃ saraṇaṇ gacchāmi

อธิษฐานใจถึงพระไตรสรณคมน์                                          Make Triple Gem Resolution
ต่อจากนั้น ให้อธิษฐานใจถึงพระไตรสรณคมน์                                 Then make the following
ให้มั่นก่อนว่า                                                                         resolution:
ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า องค์อรหันต์ผู้ละกิเลส                              I take refuge in the Buddha—the Pure One, completely
ขาดจากสันดาน กับพระธรรมเจ้า กล่าวคือคำสอน            free from defilement; and in his Dhamma—doctrin,
ของพระองค์ที่เป็นปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม                      practice and attainment;
ปฏิเวธธรรม กับพระสังฆเจ้า กล่าวคือ พระโสดา                              and in the Saṅsha—the four
พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์                          levels of his Noble Disciples—
ว่าเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึกนับถือของข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้    from now until the end
เป็นต้นไป ตราบเท่าชีวิตของข้าพเจ้านี้แล                          of my life.
พุทธัง ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ                            Buddhaṃ jīvitaṃ yāva-nibbānaṃ saraṇaṃ gacchāmi
ธัมมัง  ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ                           Dhamaṃ jīvitaṃ yāva-nibbānaṃ saraṇaṃ gacchāmi
สังฆัง ชีวิตัง ยาวนิพพานัง สรณัง คัจฉามิ                            Saṅghaṃ jīvitaṃ yāva-nibbānaṃ saraṇaṃ gacchāmi

ตั้งเจตนาวิรัติละเว้นในองค์ศีล                                              Observe the Precepts.
ต่อจากนั้น ให้เจตนาวิรัติละเว้นในส่วนแห่งองค์ศีล๕       Then formulate the intention to observe the five,
ศีล ๘ ศีล ๑๐ หรือ ศีล ๒๒๗ ตามภูมิของตนที่จะสามารถ                the eight, the ten, or the 227 precepts-- accordint
รักษาได้ แล้วว่าคำสมาทานรวมลงในที่แห่งเดียวกันอีกว่า                to how many you are normally able to observe—
                                                                                                Expressing them in a single vow;
๑ อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาทิยามิ                                  Imāni pañca sikkhāpadani samādiyami
ให้ว่า ๓ หน นี้สำหรับศีล ๕ แปลว่า                                     Three times times ( This is for those observing the five
ข้าพเจ้าสมาทานเอาซึ่งสิกขาบททั้งหลาย ๕ คือ                  precepts, and means, ‘ I undertake the five training rules:
๑ ปาณาฯ ไม่ฆ่าสัตว์                                                              to refrain from taking life,
๒ อทินนาฯ ไม่ลักทรัพย์                                                     from stealing,
๓ กาเมฯ ไม่ประพฤติผิดในกาม                                          from sexual misconduct,
๔ มุสาฯ ไม่กล่าวคำเท็จ                                                        from lying,
๕ สุราฯ ไม่ดื่มสุราเมรัย ( เป็น ๕ ข้อ)                                  and from taking intoxicants.

๒ อิมานิ อัฏฐสิกขา ปทานิ สมาทิยามิ                                  Imāni aṭṭha sikkhapadāni samādiyami
ให้ว่า ๓ หน สำหรับศีล ๘ แปลว่า ข้าพเจ้าสมาทานเอา      (three times): this is for those observing the eight precepts,
ซึ่งสิกขาบททั้งหลาย ๘ คือ                                                  and means, I undertake the eight training rules:
๑ ปาณาฯ ไม่ฆ่าสัตว์                                                              to refrain from taking life,
๒ อทินนาฯ ไม่ลักทรัพย์                                                     from stealing,
๓ อพรหฺมจริยาฯ ไม่ประพฤติร่วมสังวาส                          from sexual intercourse,
    กับหญิงชายทั้งปวง
๔ มุสาฯ ไม่กล่าวคำเท็จ                                                        from lying,
๕ สุราฯ ไม่ดื่มสุราเมรัย                                                        from taking intoxicants,
๖ วิกาลโภฯ ไม่กินอาหารในเวลาตะวันบ่ายไปแล้ว          from eating food after noon,
๗ นัจจคีมาลาฯ ไม่ดูการละเล่นและตกแต่งประดับ          from watching shows and from adorning the body for 
    ประดาอัตตภาพร่างกาย เพื่อความสวยงามต่างๆ            the purpose of beautifying it,
๘ อุจจาฯ ไม่นั่งนอนบนเตียงตั่ง ที่สูงเกินประมาณ           and from using high
และฟูกเบาะทียัดด้วยนุ่นและสำลี  (เป็น ๘ ข้อ)                                 and luxurious beds and seats.

๓ อิมานิ ทสสิกขา ปทานิ สมาทิยามิ                                    Imāni dasa sikkhāpadāni samādiyami
ให้ว่า ๓ หน นี้สำหรับศีล ๑๐ แปลว่า ข้าพเจ้าสมาทาน       (Three times) This is for observing the ten precepts, and
เอาซึ่งสิกขาบททั้งหลาย ๑๐ คือ ปาณาฯอทินนาฯ                              means, I undertake the ten training rules: to refrain from
มุสาฯสุราฯวิกาลโภฯนัจจคีฯมาลาฯอุจจาฯชาตรูฯ            taking life, from stealing, from sexual intercourse, from
ไม่ให้รับเงินทองใช้สอยด้วยตนเอง (เป็น ๑๐ ข้อ)                             lying, from taking intoxicants, from eating food after noon,
                                                                                                From watching shows and from adorning the body for
                                                                                                the purpose of beautifying it, from using high and
                                                                                                luxurious beds and seats. And from receiving money.
๔ ศีล ๒๒๗ ให้ว่าดังนี้                                                         The 227 precepts
ปาริสุทโธ อหัง ภันเต ปาริสุทโธ ติมัง พุทโธ ธาเรตุ          Parisuddho ahaṃ bhante. Parisuddhoti
maṃ buddho dharetu.
ปาริสุทโธ อหัง ภันเต ปาริสุทโธ ติมัง ธัมโม ธาเรตุ           Parisuddho ahaṃ bhante. Parisuddhoti
maṃ dhammo dharetu.
ปาริสุทโธ อหัง ภันเต ปาริสุทโธ ติมัง สังโฆ ธาเรตุ           Parisuddho ahaṃ bhante. Parisuddhoti
maṃ saṅgho dharetu.

เมื่อทำความบริสุทธิ์ของตนด้วยกาย วาจา ใจ ต่อคุณ         Now that you have professed the purity of your
พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า แล้วกราบลง        thoughts, words and deeds towards the qualities
๓ หน แล้วจึงค่อยนั่งราบลง ประณมมือไหว้ทำใจ            of the Buddha, Dhamma and Sanha, bow down
ให้เที่ยง                                                                                   three times, and then sit down. Place your hands
                                                                                                Palm-to-palm in front of your heart, steady your

                                                                                                Thoughts, and develop the four Divine Abidings:

ไม่มีความคิดเห็น: