เจริญพรหมวิหาร ๔ Four
Divine Abidings:
จากนั้นเจริญพรหมวิหาร
๔ ถ้าแผ่ไปไม่เจาะจงเรียกว่า Develop
the four Divine Abiding: good will,
อัปปมัญญาพรหมวิหาร
ว่าดดยคำบาลีย่อๆ ให้สะดวก compassion,
appreciation and equanimity. To
แก่ผู้จำยากก่อน
ดังนี้ spread
these thoughts to all living beings without
Distinction
is called the immeasureable Divine
Abiding.
A short Pali formula, for those who have
Trouble
memorizing , is:
เมตตา คือ จิตคิดเมตตารักใคร่ปรารถนาให้ตน Mettā Benevbolence and love, hoping for one’s own
และสัตว์ทั้งหลายเป็นสุขทั่วหน้ากัน welfare and for that of all other living beings.
กรุณา คือ จิตคิดกรุณา เอ็นดูสงสารตนและคนอื่น Karunā Compassion for oneself and others.
มุทิตา คือ จิตอ่อนน้อมพลายยินดีในกุศลของตน Muditā Appreciation, taking delight in one’s own
และคนอื่น goodness
and that of others.
อุเปกขา คือ จิตคิดวางเฉยในสิ่งที่ควรปล่อยวาง Upekkhā Equanimity in face of those things which
Should
be let be.
อานาปานสติแบบที่ ๑ Breathe Meditation Development Method 1
นั่งขัดสมาธิ Sitting
Meditation
ต่อนี้ให้นั่งขัดสมาธิ
เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับ Now
sit in a half-lotus position, right leg on top of the left,
มือซ้าย
ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น อย่าให้ฟั่นเฟือน your hands place palm-up on your lap, right hand on top
ประนมมือไหว้แล้วระลึกถึงพระพุทธ
พระธรรม of
the left. Keep your body straight, and your mind on
พระสงฆ์
แต่ในใจว่า the
task before you. Raise your hand in respect, palm-to-
Palm
in front of the heart, and think of the qualities of the
Buddha,
Dhamma and Sangha:
พุทโธ เม นาโถ พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า Buddho me nātho : The Buddha is my mainstay.
ธัมโม เม นาโถ พระธรรมเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า Dhammo me nātho : The Dhamma is my
mainstay.
สังโฆ เม นาโถ พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า Saṅgho me nātho : The Sangha is my mainstay.
แล้วกล่าวซ้ำอีกว่า The repeat in your mind:
พุทโธ ๆ Buddho
buddho
ธัมโม ๆ Dhammo
dhammo
สังโฆ ๆ Saṅgho
saṅgho
แล้วปล่อยมือลงข้างหน้า
ยบริกรรมภาวนาแต่คำเดียวว่า Return
your hands to your lap, and repeat one word.
พุทโธ ( ๓ หน) Buddho
( three times in your mind)
ต่อจากนั้นให้นึกถึงลมหายใจเข้าออก
คือให้นับลมเป็นคู่ๆ Then
think of the in-and-out breath—
ดังนี้ i.e.
count the breaths in pair
พุท ลมเข้า โธ ลมออก think of ‘bud’ with the in-breath,’dho’ with the out.
อย่างนี้ต่อไปจนถึง
๑๐ ครั้ง do
it ten times.
แล้วให้ให้ตั้งต้นใหม่อีกดังนี้คือ Then begin again,
๑ ลมเข้า พุทโธ หนหนึ่ง thinking
‘buddho’ with in breath,
๒ ลมออก พุทโธ หนหนี่ง thinking
‘buddho’ with the out breath,
ภาวนาอย่างนี้ต่อไปจนถึง
๗ หน แล้วให้ตั้งต้นใหม่ Do it seven times.
อีกดังนี้คือ And
then begin again:
ลมเข้า ลมออก
ให้ภาวนา พุทโธ หนหนึ่ง As the breath go in and out once, think’buddho’
ทำอย่างนี้ไปจนถึง
๕ หน แล้วตั้งต้นใหม่อีกดังนี้คือ Do
it five times. Then begin again:
ลมเข้า ลมออก ให้ภาวนา พุทโธ ๓ คำ As the breath goes in and
out conce,think’buddho’three times
ทำอย่างนี้ต่อไปจนครบ
๓ วาระของลมเข้าลมออก Do
this for three in-and-out breaths.
ต่อนั้นให้บริกรรมแต่
พุทโธ อย่างเดียว Now you can stop
counting the breaths, and simply think
ไม่ต้องนับลมอีกต่อไป ‘bud’ with
the in-breath, and ‘dho’ with the out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น