วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลมหายใจดับไปในความรู้สึก

ลมหายใจดับไปในความรู้สึก

ในหนังสือ ปฏิปทาพระธุดงค์กัมมัฏฐานกล่าวไว้ดังนี้ว่า
“ลมหายใจดับไปในความรู้สึก ขณะภาวนาอานาปานสติในบางครั้ง ที่สุดของลมคือดับไป  ที่สุดของใจคือรวมลงสนิท หมดความรับผิดขอบกับลม  ตั้งอยู่เป็นเอกจิตมีอารมณ์เดียว เพียงรู้อย่างเดียวไม่เกียวกับสิ่งใดต่อไปอีก ที่เรียกว่าจิตรวมสนิททางสมาธิภาวนา แต่ผู้ภาวนาอานาปานสติ เมื่อเข้าถึงลมละเอียดและลมดับไปในความรู้สึกในขณะนั้น เกิดตกใจด้วยความคิดหลอกตัวเองว่า “ลมดับต้องตาย” เพียงเท่านี้ลมก็กลับมีมา และกลายเป็นลมหยาบไปตามเดิม จิตก็หยาบ สุดท้ายการภาวนาก็ไม่ก้าวไปถึงไหน คงได้เพียงขั้นกลัวตายแล้วถอยจิตถอยลมขึ้นมาหาที่ตนเข้าใจว่าไม่ตายนี้เท่านั้น  การภาวนาแบบนี้มีมากมายในวงปฏิบัติ จึงได้เรียนไว้บ้าง เพราะอาจเกิดมีแต่ท่านที่ภาวนาอานาปานสติเป็นบางราย แล้วอาจเสียท่าให้กับความหลอกลวงนี้ได้

การภาวนาเพื่อเห็นความจริงกับลมในอาปานสติ กรุณากำหนดลมด้วยสติจนถึงที่สุดของลมและของจิต  จะเห็นความอัศจรรย์อย่างเด่นชัดขณะผ่านความกลัวตายในระยะที่เข้าใจว่าลมดับไปแล้วด้วยความกล้าหาญ คือ ขณะเจริญอานาปานสติไปถึงลมละเอียดและลมดับไปในความรู้สึกขณะนั้น โปรดทำความเข้าใจว่า แม้ลมจะดับไปจริงๆก็ตาม  เมื่อความรู้สึกคือใจยังครองตัวอยู่ในร่างนี้ อย่างไรก็ไม่ตายแน่นอน ลมจะดับก็จงดับไป หรือะไรๆ ในกายจะดับไปตามลมก็จบดับไปตามธรรมชาติของตน สำหรับใจผู้ไม่ดับไม่ตายไปกับสิ่งเหล่านั้น จะกำหนดดูให้รู้ทุกอย่างบรรดาที่ผ่านเข้ามาในความรู้สึกขณะนี้ แต่จะไม่เป็นกังวลกับอะไรที่เป็นสภาพเกิดๆ ดับๆ “

ไม่มีความคิดเห็น: