The questions of King Milinda มิลินทปัญหา

The questions of King Milinda
ไทย-อังกฤษ

สมลักษณ์ วันโย : เรียบเรียง
เริ่มเมื่อ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๑
--------------------------------------------------------------------------------
พุทธานุตตรภาวปัญหา
The Buddha is Unsurpassed
--------------------------------------------------------------------------------
พระราชาตรัสถามว่า" พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธเจ้าไม่มีใครยิ่งกว่าไปได้หรือ?"
King Milinda said: " Revered Nagasena, is the Buddha unsurpassed?"

พระเถรเจ้าทูลตอบว่า " ขอถวายพระพร."
" Yes, sire, the Blessed One is unsurpassed."

ร. " พระผู้เป็นเจ้าก็ไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้า ทำไมจึงทราบได้ว่า พระพุทธเจ้าไม่มีใครจะยิ่งไปกว่าไปได้."
"But, revered Nagasena, how do you know that the Buddha is unsurpassed when you have never seen him?"

ถ. " พระองค์จะทรงดำริเห็นข้อความนั้นเป็นไฉน คนที่ยังไม่เห็นมหาสมุทรเลย จะรู้ได้หรือว่า มหาสมุทรใหญ่ลึกเหลือที่จะนับ ยากทีจะหยั่งถึง แม้น้ำใหญ่ทั้งห้า คือ คงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี ไหลลงไปสู่มหาสมุทรไม่ขาดสาย . มหาสมุทรนั้นก็ไม่ปรากฏทีจะบกพร่อง หรือเต็มขึ้นมากว่าเก่า ดังนี้ ."
" What do yiou think about this, sire? Would those who have never seen the great ocean know: ' Vast is the grat ocean, deep, immeasurable, unfathomable; for the five great rivers constantly and contiaually flow into it- the Ganges, Jumna, Aciravati, Sarabhu and Mahi - yet nether its emptiness nor its fulness is thereby discrened' ? "

ร. " เขาต้องรู้ได้ซิ พระผู้เป็นเจ้า."
" Yes, revered sir, they would know that."

ถ. " ข้อนั้นฉันใด ถึงอาตมาภาพได้เห็นพระอรหันตสาวกที่ปรินิพพานแล้ว ก็รู้ได้ว่า " พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่มีใครจะยิ่งกว่าไปได้ " เหมือนฉะนั้น. "
" In the same way, sire, having seen the grat disciples who had attained final Nibban, I know that the Blessed One is unsurpassed."

ร. " พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริงๆ ."
" You are dexterous, revered Nagasena."
--------------------------------------------------------------------------------

อัทธานปัญหา
The root of Time
--------------------------------------------------------------------------------
พระราชาตรัสถามว่า " พระผู้เป็นเจ้า ก็อะไรเป็นมูลของกาลไกลที่เป็น อดีต อนาคต ปัจจุบันเล่า?"
King Milinda said: "Revered Nagasena, what is the root of past time, future time and present time?"

พระเถรเจ้าตอบว่า" มหาราช อวิชชาเป็นมูลของกาลไกลที่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน( คือ)
" The root of past time, future time and present time, sire, is ignorance.

สังขารย่อมมีมา เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
Conditioned by ignorance are kammic formations,

วิญญาณย่อมมีมา เพราะสังขารเป็นปัจจัย,
Conditioned by kammic formations is conscousness,

นามรูปย่อมมีมา เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย,
Conditioned by consciousness is mind-and-matter,

สฬายตนะย่อมมีมา เพราะนามรูปเป็นปัจจัย,
Conditioned by mind-and-matter are the six sense bases,

ผัสสะย่อมมีมา เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย,
conditioned by ther six sense bases is contact,

เวทนาย่อมมีมา เรพาะผัสสะเป็นปัจจัย,
conditioned by contact is feeling,

ตัณหาย่อมมีมา เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย,
conditioned by feeling is craving,

อุปาทานย่อมมีมา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย,
conditioned by craving is clinging,

ภพย่อมมีมา เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย,
conditioned by clinging is becoming,

ชาติย่อมมีมา เพราะภพเป็นปัจจัย,
conditioned by becoming is birth,

ชราและมาณโสกปริเทวทุกขโทมนัส อุปายาสย่อมมีมา เพราะชาติเป็นปัจจัย,
conditioned by birth there come into existence old age and death, sorrow, lamentation, pain, grief and despair.

เงื่อนต้นแห่งกาลไกลนั้นย่อมไม่ปรากฏ ดังนี้."
Thus the earliest point of this whole time cannot be shown."

ร. " พระผู้เป็นเจ้าช่างฉลาดจริงๆ ."
" You are dexterous, revered Nagasena."
--------------------------------------------------------------------------------
สมลักษณ์ วันโย
๒๖ กันยายน ๒๕๕๑


ไม่มีความคิดเห็น: