วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปู่ ย่า ของเผ่าอีก้อ

อีก้อ นับเป็นชาวเขาเผ่าหนึ่งกระจายอยู่ทั่วไป จีน พม่า ไทย ลาว มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ในภาพเป็นแนวคิดของอีก้อเกี่ยวกับกำเนิดของมนุษย์ที่เป็นประเพนีกราบไหว้ปู่ย่าของเขา ผีปูผีย่า เชื่อและนับถือกันมาแต่โบราณ ภาพนี้ถ่ายที่พิพิธภัณฑเผ่าอีก้อ บนเขา ปากทางที่จะขึ้นไปยังพระพุทธบาทที่พระพุทธองค์ประทานไว้ให้เหล่านาคราชกราบไหว้บูชาบนยอดเขาสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ป่าเขาลำเนาไพรในสิบสองปันนา

 
นี่คือป่าบนยอดเขาแห่งสิบสองปันนา ที่พระอาจารย์ได้นำพาคณะศิษย์นำโดยพระอาจารย์ตุ๊เจ้าขงแห่งเชียงรุ้งหรือเมืองอาฬวีในบรรพกาลสถานที่พระพุทธองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวเมืองและท่านอาฬวกะยักษ์ได้เสด็จมาจำพรรษาที่นี่ในพรรษาที่ ๑๖ แห่งปีการตรัสรู้ เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายต่างชื่นชมยินดียิ่งในการขึ้นไปเยี่ยมเยือนถึงถิ่น โดยเฉพาะเหล่านาคราชทั้งหลายต่างก็ดีใจทั่วหน้ากัน แม้การเดินทางจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อไปถึงแล้วต่างก็สดชื่นรื่นเริงในธรรมเป็นยิ่งเพราะได้เห็นความมีศรัทธาของเหล่าเทวดาและมนุษยทั้งหลายที่มีต่อพระพุทธศาสนามีความเคารพรักในพระพุทะองค์เป็นที่ยิ่ง

สถานทิพพิมาน

พระอาจารย์ได้พาขึ้นไปบนยอดเขาอันเป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกา ข้างบนนั้นมีธารน้ำใสสะอาดไหลรินอยู่ชั่วนาตาปี 
ธารน้ำที่ใสเย็นทำให้น่าอาบสรงให้สดชื่นดียิ่งนัก รอบๆเต็มไปด้วยป่าไม่้นานาชนิดร่มรื่นสดชื่นสมกับเป็นแดนทิพพิมานโดยแท้ ในท่ามกลางป่าเขา นับเป็นสถานที่สัปปายะเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาอย่างยิ่ง ยามใดก็ตามที่กำหนดจิตเข้่าสู่สมาธิ ความที่อาศัยป่าอันสงบสงัด สามารถเข้าถึงฌานที่ี ๓ โดยไม่ยาก ทำไมจึงเข้าถึงฌานที่ ๓ เพราะในฌานนี้ทำให้เราสามารถเห็นเหล่าเทพเทวดาที่มีกายเป็นทิพย์ได้ นี่เองทำให้เราหายสงสัยวาทำไมบรรดาบูพาจารย์กัมมัฏฐานทมั้งหลายจึงชอบอยู่ในป่าเขา เพราะการเหมาะสมในการบำเพ็ญภาวนาให้เกิดผลได้ดีกว่าสถานที่อันมีผู้คนพลุกพล่านนี่เอง หากเราได้ไปทดลองดูแล้วจะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตรัสให้ภิกษุทั้งหลายที่บวชใหม่พากันไปบำเพ็ญสมณะธรรมในป่าเสมอๆ แม้พ่อแม่ครูอาจารยของเราในปัจจุบันก็สอนแบบเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าสอนไว้คือให้เข้่าป่าบำเพ็ญภาวนา

ฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสิบสองปันนา

วัดเชียงป้อม ต.กาดทราย องเชียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน คำว่าเชียงป้อม หมายถึงในสมัยบรรพกาลนั้น เป็นสถานที่ผู้คนนัดหมายมาประชุมกันที่นี่เป็นประจำ ป้อม มาจากคำว่าพร้อม ในภาษาไทย แต่ไทลือพูดพร้อมว่า ป้อม หลังจากได้มีการผ่อนคลายในเรื่องของศาสนาในประเทศจีน รัฐบาลก็นิมนต์ให้พระอาจารยผืตุ๊เจ้าขง ไปเซ็นต์รับวัดคืนมาเป็นของคณะสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ประกาศให้หยุดกิจกรรมทางศาสนามาตั้งแต่สมันการปฏิวัติทางวัฒนธรรม ซึ่่งก็ได้เผาทำลายวัดและพระไตรปิฏกไปส่วนหนึ่ง แต่ประชาชนปกป้องศาสนสมบัติไว้สุดความสามารถ บางแห่งแกล้งเอาวัสวควายไปเลี้ยงในวัดและให้พระหนีออกไปหลบซ่อนอยู่ที่อื่นก่อน ก็พอระงับความรุถรแรงในเรื่องการเผาทำลายวัดลงได้จำนวนหนึ่ง บัดนี้บรรดาผู้เฒ่าแห่งสิบสองปันนาต่างดีใจที่พระพุทธศาสนาได้ส่งแสงเรืองรองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ต่างก(็พากันทุ่มเทบูรณะซ่อมแซมวัดวาอารามที่พระอาจารย์ไปเซ็นต์รับกลับคืทนมาด้วยศรัทธาอันเต็มเปี่ยมล้นในหัวใจถวายไว้ในพระพุทธศาสนา 

โกโบต้าตัวอย่างการแก้ปัญหาการจราจรในเมืองใหญ่

รุ่งอรุณเหนือ กทม ชีวิตผู้คนเริ่มสับสนวุ่นวายอีกครั้งหนึ่งเป็นวัฏฏจักรของคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ มองออกไปไกลที่ทางด่วน ยังมีแสงไฟบอกทางเปิดอยู่ เพราะยังเช้า ปัญหาที่เราทั้งหลายต้องเผชิญประจำวันก็คือเรื่องการเดินทาง ปัญหาการจราจรที่ติดขัด ไม่มีผู้มีปัญญาแก้ไขให้ได้เป็นเวลานานแสนนานแล้ว การแก้แบบง่ายๆที่เมืองอื่นเขาแก้สำเร็จมาแล้ว เช่นกรณีเมืองโกโบต้ามีปัญหาหนักกว่าเราหลายเท่า แต่เขาโชคดีที่มีผู้ัมีปัญญา นักการเมืองที่มีสมองสามารถแก้ปัญหาให้แก่ประชาชนได้ บัดนี้ชาวโกโบต้าเต็มไปด้วยความสุข แม้จะเป็นเมืองใหญ่ผู้คนหนานแน่นพอๆกันกับ กทม ก็ตาม พูดไปก็เหมือนด่า ถ้าไม่พูดก็ให้เขาคิดเองก็ไม่เป็น จึงต้เองพูด ต้องบอก ว่า ปัญหาการจราจรนั้น เขาแก้สำเร็จแล้วนะ ด้วยวิธีการอย่างนั้นๆ เราควรหันมามองตนเองเปรียบกับเขาว่า เขาก็คน เราก็คน เขาทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้ เป็น นั้นก็คือการทำทางจักรยานให้ประชาชนได้ขี่สัญจรไปมาสะดวกในท้องถนน เมื่อผู้คนขี่จักรยาน อุบัติเหตุก็ไม่มี ชีวิตก็เป็นสุข

ศาลาพักสงฆ์ วัดพระธาตุปางเยอ เชียงรุ้ง สิบสองปันนา

ศาลาที่พักสงฆ์วัดพระธาตุปางเยอ กำลังก่อสร้างท่ามกลางความขาดแคลน แม้ค่าแรงคนงานก็ไม่มีจ่าย แต่พวกเขาก็มีศรัทธา ไม่มีค่าแรงก็ทำด้วยน้ำใจอันเสียสละ เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากถูกปิดไปเกือบครึุ่งศตวรรษ มาบัดนี้ทางการเริ่มผ่อนคลายโดยให้พระอาจารย์ไปเซ็นต์รับคืนมาอยู่เรือยๆ จนวัดในความดูแลมากมายมหาศาล ต้องอาศัยศรัทธาประชาชนเป็นผู้ช่วยกันบูรณะซ่อมแซมให้ดีดังเดิม

อาทิตย์อัศดงค์ที่เชียงรุ้ง

อาทิตย์อัศดงค์ที่เชียงรุ้ง

มองจากวัดพระธาตุฮังฮุ้ง อ.เชียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา ยูนนาน จีน ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัศดงค์ ขุนเขาสูงที่ล้อมรอบเมืองเชียงรุ้ง เป็นสถานที่สถิตแห่งเทพเจ้าผู้เป็นเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกาทั้งหลาย ฟ้าฝนเมืองนีจึงชุ่มฉ่ำอยู่เป็นนิตย์ไม่ขาดแคลนด้วยน้ำ ป่ายังอุดมสมบูรณ์

กลดกัมมัฏฐานภาวนาที่สิบสองปันนา

พระอาจารย์กำลังมอบกลัดกัมมัฏฐานให้อุบาสกอุบาสิกาไปกางปฏิบัติธรรมในวันพระที่วัดเชียงป้อม ต.กาดทราย อ.เชียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน 

ภาพเขียนในโบสถ์วัดพระธาตุฮังฮุ้ง

ภาพเขียนในโบสถ์วัดพระธาตุฮังฮุ้ง อ.เชีียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นภาพสัญลักษณ์ นกยูง อันเป็นสัญลักษณ์ตราประจำเมืองเชียงรุ้ง อันเป็นเมืองหลวงแห่ง สิบสองปันนา ในบรรพกาล


ภาพเขียนในโบสถ์วัดพระธาตุฮังฮุ้ง อ.เชียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนถ่ายเมือ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดย สมลักษณ์ วันโย

พระอาจารย์ปฏิบัติบูชาภาวนาที่วัดพระธาตุฮังฮุ้ง

พระธาตุฮังฮุ้ง


พระอาจารย์พระครูประกาศพุทธพากย์ พระธรรมทูตสายต่างประเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม กรรมการวัดญาณรังษี กรุงวอร์ชิงตัน ดีซี รัฐเวอร์จีเนียร์ สหรัฐอเมริกา กำลังปฏิบัติบูชาภาวนา พระธาตุฮังฮุ้ง เป็นเจดีย์สำคัญแห่งหนึ่งในเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา ซึ่งได้เซ็นต์รับมอบมาจากรัฐบาล และได้มีแม่คำและคณะได้มีศรัทธาบุรณะซ่อมแซมให้ดีดังเดิม นับเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสิบสองปันนาซึ่งเมื่อได้พบกับพระอาจารย์ต่างก็ดีใจ ร้องขอให้พระอาจารย์ช่วยเหลือในทุกๆ ด้าน ซึ่งพระอาจารย์ก็รับปากจะช่วยเหลือตามกำลังความสามารถ

พระอาจารย์มอบถวายกลดกัมมัฏฐาน

พระอาจารย์ พระครูประกาศพุทธพากย์ ได้มอบถวายกลดกัมมัฏฐานสีขาว เพื่อให้อุบาสกอุบาสิกาได้ใช้ในการบำเพ็ญภาวนา แก่พระอาจารย์ ตุึ๊๊ํเจ้าขง เจ้าอาวาสวัดเชียงป้อม ต.กาดทราย อ.เชียงรุ้ง จ.สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖
จำนวน ๔ ฃุด
มีเจ้าภาพร่วมกันถวายดังต่อไปนี้
๑ นางอิงอร กุลกิจจา
๒ น.ส.สุธาศินี กุลกิจจา
๓ น.ส.นันทนัช กุลกิจจา
๔ นายกรกต กุลกิจจา
๕ นายอรุณ กลิ่นสารี
๖ นายวเรศ กุลกิจจา และครอบครัว
๗ นาย วันนพ กุึลกิจจา และครอบครัว
๘ นาง วรรณี นนทรีย์และครอบครัว
๙ นายวุฒิกร กุลกิจจาและครอบครัว
๑๐ นายธนเดช ชัยเชิดชูวงศ์
๑๑ นาง นันทวัน ชัยเชิดชูวงศ์
๑๒ นายภาณุภณ ชัยเชิดชูวงศ์
๑๓ คุณ สรดิษฏ์ ชัยเชิดชูวงศ์
๑๔ ด.ญ.มนภัสสร ชัยเฃิดชูวงศ์
๑๕ น.ส.พรสรัฐ เขียวอ่อน
๑๖ นางสมพร หอมหวล
๑๗ น.ส.จิราวรรณ แก่นมั่น
๑๘ คุณแดง นิรมล
๑๙ คุณศศินภา นามนิตย์
ขออนุโมทนาในทานมัยที่ได้ถวายกลดกัมมัฏฐานไว้ในพระพุทธศาสนา เพื่อผู้ปฏิบัติธรรมได้ใช้กางเพื่อปกป้องตนจากแมลงและสัตว์อื่นที่จะพึงมาเบียดเบียฬขณะบำเพ็ญภาวนา ขออานิสงส์แห่งการถวายทานนี้ จึงเป็นตบะเดฃะพลวะปัจจัยนิสัยตามส่งจนถึงความพ้นทุกข์ในทุกภพทุกชาติที่เกิดมา ขอจงประสบแต่ความสุข ความเจริญด้วย จตุพิธพรชัยทัี้งสี่คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติตลอดกาลนานเทอญ
ในฐานะผู้เป็นมัคคทายกผู้นำพาในการทำบุญครั้งนี้ ขอทำปัตติทานมัยกุศลอันได้แก่การแบ่งผลแห่งบุญที่ท่านทั้งหลายได้ประกอบกระทำแล้วตามรายนามที่ประกาศนี้ แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไมมีกำหนด ไม่มีประมาณที่เวียนว่าย ตาย เกิด อยู่ในภพน้อยและภพใหญ่ มีขันธ์ ๕ ขันธ์ ๔ และขันธ์ ๑ ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลายมี มารดา บิดา อุปัชฌาย์ อาจารย์ ญาติ มิตร สหาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เทพเจ้าเหล่าเทวาทั้งหลายในสากล จงทราบการให้ส่วนบุญอันเป็นปัตติทานมัยนี้ หากไม่ทราบ ขอเทพยเจ้าทั้งหลายโปรดบอกให้ทราบ เมื่อทราบแล้วจงยินดีและอนุโมทนาเถิด ด้วยการยินดีและอนุโมทนากุศลทั้งหลายทีเราทั้งหลายได้ให้แล้วนี้ ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้นจงเป็นผู้ไม่มีเวร ไมมีภัย ปราศจากโรคาพาธ นิราศจากอุปัทวันตรายทั้งหลายทั้งปวง เมื่อสุขอยู่ขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป เมื่อทุกข์อยู่ขอให้พ้นจากทุกข์ทุกท่านทุกคนเทอญ

สมลักษณ์ วันโย