วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อย่าคาดหมายผลที่จะพึงเกิดขึ้น

อย่าคาดหมายผลที่จะพึงเกิดขึ้น

การตั้งเป้าหรือคาดหมายผลในการภาวนานั้นเป็นเหตุให้กั้นจิตไม่ให้สงบได้ ดังนั้นจึงควรทำไปตามปกติเพื่อสร้างสมสติปัญญาไปตามลำดับ ข้อนี้ ดังจะเห็นได้จากคำสอนของครูบาอาจารย์เช่นดังที่หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้กล่าวไว้ใน หนังสือปฏิปทาพระธุดงค์กัมมัฏฐาน ดังมีข้อความดังนี้
“การบริกรรมภาวนาในธรรมบทใดก็ตาม กรุณาอย่าคาดหมายผลที่จะพึงบังเกิดขึ้นในเวลานั้น  เช่น ความสงบจะเกิดขึ้นในลักษณะนั้น นิมิตต่าง ๆ จะเกิดขึ้นในเวลานั้น หรืออาจจะเห็นนรกสวรรค์ขุมใดหรือชั้นใดในเวลานั้น เป็นต้น นั่นเป็นการคาดคะเนหรือด้นเดาซึ่งเป็นการก่อความไม่สงบให้แก่ใจเปล่าๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรจากการวาดภาพนั้นเลย และอาจทำใจให้ท้อถอยหรือหวาดกลัวไปต่างๆ  ซึ่งผิดจากความมุ่งหมายของการภาวนาโดยถูกทางที่ท่านสอนไว้

ที่ถูกควรตั้งจิตกับสติไว้เฉพาะหน้า  มีคำบริกรรมเป็นอารมณ์ของใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น โดยมีใจกับสติต่ออยู่กับคำบริกรรม เช่น พุทโธ ๆ สืบเนื่องกันไปด้วยความมีสติ และพยายามทำความรู้สึกตัวอยู่กับคำบริกรรมนั้นๆ อย่าให้จิตเผลอตัวไปสู่อารมณ์อื่น  ระหว่างจิต สติ กำกับคำบริกรรมมีความสืบต่อกลมกลืนกันได้เพียงไร ยิ่งเป็นความมุ่งหมายของการภาวนาเพียงนั้น  ผลคือความสงบเย็นหรืออื่นๆ  ที่แปลกประหลาดไม่เคยพบเห็น  อันจะพึงเกิดขึ้นให้ชมตามนิสัยวาสนาในเวลานั้นจะเกิดขึ้นเอง  เพราะอำนาจของการรักษาจิตกับคำบริกรรมไว้ได้ด้วยสตินั่นแล จะมีอะไรมาบันดาลให้เป็นขึ้นไม่ได้”

ไม่มีความคิดเห็น: