วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อาฏานาฏิยะปริตร 15-8-55


อาฏานาฏิยะปริตร
วิปัสสิสสะ นะมัตถุ                                          ความนอบน้อมแห่งข้าพเข้าจงมี
จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต                                    แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้าผู้มีจักษุ ผู้มีสิริ
สิขิสสะปิ นะมัตถุ                                            ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้าจงมีแด่พระสิขีพุทธเจ้า
สัพพะภูตานุกัมปิโน                                        ผู้มีปกติอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั้งปวง
เวสสะภุสสะ นะมัตถุ                                       ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้าจงมีแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า
นฺหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน                                  ผู้มีกิเลสอันล้างแล้ว ผู้มีตะปะ
นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ                                      ความน้อบน้อมแห่งข้าพเข้าจงมีแด่พระกกุสันธพุทธเจ้า
มาระเสนัปปะมัททิโน                                      ผู้ย่ำยีเสียซึ่งมารและเสนา
โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ                                ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้าจงมีแด่พระโกนาคมนพุทธเจ้า
พฺราห์มะนัสสะ วุสีมะโต                                  ผู้มีบาปอันลอยเสียแล้วผู้มีพรหมจรรย์อันอยู่จบแล้ว
กัสสะปัสสะ นะมัตถุ                                        ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้าจงมีแด่พระกัสสปพุทธเจ้า
วิปปะมัตตัสสะ สัพพะธิ                                  ผู้พ้นแล้วจากกิเลสทั้งปวง
อังคีระสัสสะ นะมัตถุ                                       ความนอบน้อมแห่งข้าพเจ้าจงมีแด่พระอังคีรสพุทธเจ้า
สักฺยะปุตตัสสะ สิรีมะโต                                  ผู้เป็นโอรสแห่งศากยราช ผู้มีสิริ
โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ                                    พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งธรรมนี้
สัพพะทุกขาปะนูทะนัง                                   เป็นเครื่องบรรเทาเสียซึ่งทุกข์ทั้งปวง
เย จาปิ นิพพุตา โลเก                                       อนึ่ง พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่าใดก็ดี
ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง                                         ที่ดับกิเลสแล้วในโลกเห็นแจ้งธรรมตามเป็นจริง
เต ชะนา อะปิสุณา                                           พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นเป็นคนไม่มีความ
มะหันตา วีตะสาระทา                                     ส่อเสียดผู้ใหญ่ ผู้มีความครั่นคร้ามไปปราศแล้ว
หิตัง เทวะมะนุสสานัง                                     เทพดาและมนุษย์ทั้งหลายนอบน้อมอยู่ซึ่ง
ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง                                   พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้เป็นโคตมโคตร ผู้
                                                                        เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เทพดาและมนุษย์ทั้งหลาย
วิชชาจะระณะสัมปันนัง                                  ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
มะหันตั้ง วีตะสาระทังฯ                                  ผู้ใหญ่ ผู้มี่ความครั่นคร้ามไปปราศแล้ว
วิชชาจะระณะสัมปันนัง                                  ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอนมัสการพระพุทธเจ้า
พุทธัง วันทามะ โคตะมันติ                              พระองค์นั้น ผู้โคตมโคตรผู้ถึงพร้อมด้วย
เอเต จัญเย จะ สัมพุทธา                                   วิชชาและจรณะ พระพุทธเจ้าเหล่านี้ก็ดี เหล่าอื่นก็ดี
อะเนกะสะตะโกฏะโย                                       หลายร้อยโกฏิ
สัพเพ พุทธา อะสะมะสะมา                             พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ทั้งหมดเสมอกัน ไม่มีใครเหมือน
สัพเพ พุทา มะหิทธิกา                                     พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ล้วนมีฤทธิ์มาก
สัพเพ ทะสะพะลูเปตา                                     ล้วนประกอบแล้ว ด้วยทสพลญาณ
เวสารัชเชหุปาคะตา                                         ประกอบไปด้วยเวสารัชชญาณ
สัพเพ เต ปะฏิชานันติ                                                 พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ล้วนตรัสรู้อยู่
อาสะภัณฐานะมุตตะมัง                                   ซึ่งอาสภฐานอันอุดม
สีหะนาทัง นะทันเต เต                                                พระพุทธเจ้าเหล่านั้น เป็นผู้องอาจ
ปะริสาสุ วิสาระทา                                           ไม่ครั่นคร้าม บันลือสีหนาทในบริษัททั้งหลาย
พฺรหฺมจักกัง ปะวัตเตนติ                                  ยังพรหมจักรให้เป็นไปอันใครๆ
โลเก อัปปะฏิวัตติย้ง                                        ยังไม่ให้เป็นไปแล้วในโลก
อุเปตา พุทธะธัมเมหิ                                        พระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นประกอบด้วยพุทธ
อัฏฐาระสะหิ นายะกา                                      ธรรมทั้งหลาย ๑๘  เป็นนายก
ทฺวัตติงสะลักขะณูเปตา-                                  ผู้ประกอบด้วยพระลักษณะ ๓๒ ประการ
สีตะยานึพะยัญชะนาธะรา                               และทรงแสดงซึ่งอนุพยัญชนะ ๘๐
พฺยามัปปะภายะ สุปปะภา                               มีพระรัสมีอันงามด้วยพระรัสมีมีมณฑลข้างละวา
สัพเพ เต มุนิกุญชะรา                                      พระพุทธเจ้าเหล่านั้น ล้วนเป็นมุนีอันประเสริฐ
พุทธา สัพพัญญุโน เอเต                                  พระพุทธเจ้าเหล่านั้นล้วนเป็นสัพพัญญู
สัพเพ ขีณาสะวา ชินา                                      ล้วนเป็นพระขีณาสพผู้ชนะ
มะหัปปะภา มหัพพะลา                                   มีพระปัญญามาก มีพระกำลังมาก
มหาการุณิกา ธีรา                                             มีพระมหากรุณามาก เป็นนักปราชญ์
สัพเพสานัง สุขาวะหา                                     นำสุขมาเพื่อสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
ทีปา นาถา ปะติฏฐา จะ                                   เป็นเกาะ เป็นที่พึ่งและเป็นที่อาศัย
ตาณา เลณา จะ ปาณินัง                                   เป็นที่ต้านทาน และเป็นที่เร้นของสัตว์
คะตี พันธู มะหัสสาสา                                     เป็นคติ เป็นเผ่าพันธุ์ เป็นทียินดีมาก
สะระณา จะ หิเตสิโน                                       เป็นทีระลึก และทรงแสวงหาประโยชน์
สะเทวะกัสสะ โลกัสสะ                                    เพื่อสัตว์โลกกับเทวโลก
สัพเพ เอเต ปะรายะนา                                     พระพุทธเจ้าเหล่านั้นล้วนเป็นเบื้องหน้าของสัตว์
เตสาหัง สิระสา ปาเท                                       ข้าพเจ้าขอวันทาพระบาทของพระพุทธเจ้า
วันทามิ ปุริสุตตะเม                                         และขอวันทาพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นผู้เป็น
วะจะสา มะนะสา เจวะ                                    บุรุษอันอุดมผู้เป็นตถาคต เหล่านั้นด้วยเศียรเกล้า
วันทาเมเต ตะถาคะเต                                      ด้วยวาจาและใจทีเดียว
สะยะเน อาสะเน ฐาเน                                      ในที่นอนด้วย ในที่นั่งด้วย ในที่ยืนด้วย
คะมะเน จาปิ สัพพะทา                                    แม้ในที่เดินด้วย ในกาลทุกเมื่อ
สะทา สุเขน รักขันตุ                                        พระพุทธเจ้าผู้กระทำความระงับ
พุทธา สันติกะรา ตุวัง                                      จงรักษาท่านด้วยสุขในกาลทุกเมื่อ
เตหิ ตะวัง รักขิโต สันโต                                  ท่านผู้อันพระพุทธเจ้าเหล่านั้นทรงรักษาแล้ว จงเป็นผู้ระงับ
มุตโต สัพะภะเยน จะ                                       พ้นแล้วจากภัยทั้งปวง
สัพพะโรคะวินิมุตโต                                        และพ้นแล้วจากโรคทั้งปวง
สัพพะสันตาปะวัชชิโต                                                เว้นแล้วจากความเดือดร้อนทั้งปวง
สัพพะเวระมะติกกันโต                                    ล่วงเสียซึ่งเวรทั้งปวง
นิพพุโต จะ ตุวัง ภะวะ                                     ท่านจงเป็นผู้ดับทุกข์ทั้งปวงด้วย
สัพพีติโย วิวัชชันตุ                                          ความจัญไรทั้งปวงจงเว้นไป
สัพพะโรโค วินัสสะตุ                                       โรคทั้งปวงจงฉิบหายใจ
มา เต ภวัตวันตะราโย                                      อันตรายอย่าได้มีแก่ท่าน
สุขี ทีฆายุโก ภะวะ                                           ขอท่านจงเป็นผู้มีสุข มีอายุยืน
อะภิวาทะนะสีลิสสะ                                        ธรรมทั้งหลาย คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน                                                ย่อมเจริญแก่บุคคลมีความไหว้ต่อบุคคลมีความ
จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ                                   ไหว้เป็นปกติ ผู้อ่อนน้อม
อายุ วัณโณ สุขัง พะลังฯ                                  ต่อบุคคลผู้เจริญเป็นนิตย์

ไม่มีความคิดเห็น: