วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สีลุทเทสปาฐะ


สีลุทเทสปาฐะ
หันทะ มะยัง สีลุทเทสะปาฐัง ภะณามะ เส.      ขอเราทั้งหลายสวดสีลุทเทสกันเถิด

ภาสิตะมิตัง เตนะ ภะคะวะตา ชานะตา            พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้รู้เห็น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เอง
ปัสสะตา  อะระหะตา สัมมาสัมพุทเธนะ          โดยถูกถ้วนพระองค์นั้น,   ได้ตรัสคำนี้ไว้แล้วว่า,
สัมปันนะสีลา ภิกขะเว วิหะระถะ                    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย  เธอทั้งหลายจงเป็นผู้มีศีลสมบรูณ์
สัมปันนะปาฏิโมกขา,                                      มีพระปาฏิโมกข์สมบรูณ์
ปาฏิโมกขะสังวะระสังวุตา                              จงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยเครื่องสังวรในพระปาฏิโมกข์,  
วิหะระถะ อาจาระโคจะระสัมปันนา,               สมบรูณ์ด้วนอาจาระและโคจร,
คือมารยาทและสถานที่เที่ยวไป
อะณุมัตเตสุ วัชเชสุ ภะยะทัสสาวี                    จงเป็นผู้มีปกติ เห็นน่ากลัวในโทษ  แม้สักว่าเล็กน้อย
สะมาทายะ สิกขะถะสิกขาปะเทสูติ.                สมาทานศึกษาสำเหนียกในสิกขาบททั้งหลายเถิด.
ตัสมาติหัมเหหิ สิกขิตัพพัง.                             เพราะเหตุดังนั้นแหละ, เราทั้งหลายพึงศึกษา
สัมปันนะสีลา วิหะริสสามะ                             สำเหนียกว่าจักเป็นผู้มีศีลสมบรูณ์ 
สัมปันนะปาฏิโมกขา,                                      มีพระปาฏิโมกข์สมบรูณ์.
ปาฏิโมกขะสังวะระ สังวุตา วิหะริสสามะ        จักเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยเครื่องสังวรในพระปาฏิโมกข์, 
อาจาระโคจะระสัมปันนา,                                สมบรูณ์ด้วยอาจาระและโคจร คือมารยาท
และสถานที่เที่ยวไป.
อะณุมัตเตสุ วัชเชสุ ภะยะทัสสาวี                    จักเป็นผู้มีปกติ เห็นน่ากลัวในโทษสักว่าเล็กน้อย, 
สะมาทายะ สิกขิสสามะ สิกขา ปะเทสูติ.          สมาทานศึกษาสำเหนียกในสิกขาบททั้งหลาย.
เอวัญหิ  โน  สิกขิตัพพัง.                                  เราทั้งหลาย,   พึงศึกษาสำเหนียกอย่างนี้ แล

ไม่มีความคิดเห็น: